ข้ามไปเนื้อหา

สนั่น สุธากุล

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สนั่น สุธากุล
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500
อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ประเทศไทย
เสียชีวิต16 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 (48 ปี)
โรงพยาบาลรามาธิบดี กรุงเทพมหานคร
พรรคการเมืองประชาธิปัตย์ (2538–2548)
คู่สมรสสุจินธรา สุธากุล

สนั่น สุธากุล (1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 - 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2548) อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสตูล 3 สมัย

ประวัติ

[แก้]

สนั่น สุธากุล เกิดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 เป็นบุตรของนายมนัส กับนางหลำหล๊ะ สุธากุล[1] มีพี่น้อง 8 คน สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี การศึกษาบัณฑิต และ ปริญญาโท การศึกษามหาบัณฑิต จาก มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สงขลา (มหาวิทยาลัยทักษิณ ในปัจจุบัน) สมรสกับ นางสุจินธรา สุธากุล มีบุตร 2 คน

สนั่น สุธากุล เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับอ่อน เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 สิริอายุรวม 48 ปี [2]

งานการเมือง

[แก้]

สนั่น ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกใน พ.ศ. 2538 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และได้รับเลือกติดต่อกันรวม 3 ครั้ง

ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2548 ลงสมัครรับเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 31 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

[แก้]

สนั่น สุธากุล ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด 3 สมัย คือ

  1. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2538 จังหวัดสตูล สังกัดพรรคประชาธิปัตย์
  2. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2539 จังหวัดสตูล สังกัดพรรคประชาธิปัตย์
  3. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2544 จังหวัดสตูล สังกัดพรรคประชาธิปัตย์

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

[แก้]

อ้างอิง

[แก้]
  1. ประวัติผู้สมัคร ส.ส.[ลิงก์เสีย] กรมการปกครอง
  2. มะเร็งคร่าชีวิต "สนั่น สุธากูล" อดีต ส.ส.สตูล[ลิงก์เสีย]
  3. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย เก็บถาวร 2022-06-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๒๑ ตอนที่ ๒๓ ข หน้า ๑๒, ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๔๗
  4. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย เก็บถาวร 2022-10-12 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, เล่ม ๑๑๘ ตอนที่ ๒๒ ข หน้า ๒๕, ๔ ธันวาคม ๒๕๔๔