อาณาจักรรวมชิลลา
ชิลลา 신라 (新羅) 통일신라 (統一新羅) 후신라 (後新羅) | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ค.ศ. 668–ค.ศ. 935 | |||||||||||||
เมืองหลวง | คย็องจู | ||||||||||||
ภาษาทั่วไป | ภาษาเกาหลี ภาษาจีนคลาสสิก[1] | ||||||||||||
ศาสนา | พุทธศาสนานิกายมหายาน, ลัทธิขงจื๊อ, ลัทธิเต๋า, ลัทธิเชมันแบบเกาหลี | ||||||||||||
การปกครอง | สมบูรณาญาสิทธิราชย์ | ||||||||||||
กษัตริย์ราชวงศ์ชิลลา | |||||||||||||
• ค.ศ. 661–681 | พระเจ้ามุนมู | ||||||||||||
• ค.ศ. 702–737 | พระเจ้าซอนด็อก | ||||||||||||
• ค.ศ. 861–875 | พระเจ้าคยองมุน | ||||||||||||
• ค.ศ. 887–897 | พระราชินีจินซอง | ||||||||||||
• ค.ศ. 927–935 | พระเจ้าคยองซุน | ||||||||||||
ยุคประวัติศาสตร์ | สมัยโบราณ | ||||||||||||
• พระเจ้ามุนมูรวมอาณาจักร | ค.ศ. 668 | ||||||||||||
• พระเจ้าคยองซุนแพ้ฮูโคกูรยอ | ค.ศ. 935 | ||||||||||||
ประชากร | |||||||||||||
• ศตวรรษที่ 8[2] | 2,000,000 คน | ||||||||||||
| |||||||||||||
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ | เกาหลีเหนือ เกาหลีใต้ |
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของ |
---|
ประวัติศาสตร์เกาหลี |
เส้นเวลา |
สถานีย่อยประเทศเกาหลี |
อาณาจักรรวมชิลลา (เกาหลี: 통일 신라) เป็นชื่อที่มักใช้กับ อาณาจักรชิลลา ของเกาหลี หนึ่งใน สามราชอาณาจักรเกาหลี หลังจากที่ได้พิชิต อาณาจักรแพ็กเจ และ อาณาจักรโคกูรยอ ในศตวรรษที่ 7 ได้รวมพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ของ คาบสมุทรเกาหลี ไว้เป็นหนึ่งเดียว
ในปี ค.ศ. 660 พระเจ้ามุนมู ได้บัญชาให้กองทัพของพระองค์โจมตี แพ็กเจ ขุนพล คิม ยูชิน ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากกองทัพถัง เอาชนะขุนพล คเยแบ็ก และพิชิตแพ็กเจ ในปี ค.ศ. 661 พระองค์ย้ายไป โคกูรยอ แต่ถูกขับไล่ พระเจ้ามุนมูเป็นกษัตริย์องค์แรกที่มองว่าคาบสมุทรเกาหลีควรเป็นหนึ่งเดียวหลังจากการล่มสลายของ โชซ็อนโบราณ ด้วยเหตุนี้อาณาจักรชิลลาหลังปี ค.ศ. 668 จึงถูกเรียกว่า อาณาจักรรวมชิลลา อาณาจักรรวมชิลลากินเวลา 267 ปีจนกระทั่งภายใต้ พระเจ้าคยองซุน จึงเสียแก่ โครยอ ในปี ค.ศ. 935
ในช่วงรุ่งเรือง ประเทศได้แข่งขันกับ อาณาจักรบัลแฮ อาณาจักรโคกูรยอ-โมเฮ ทางเหนือเพื่ออำนาจสูงสุดในภูมิภาค ตลอดเวลาที่ดำรงอยู่ อาณาจักรรวมชิลลา ถูกรบกวนด้วยอุบายและความวุ่นวายทางการเมืองในดินแดนทางเหนือที่เพิ่งถูกยึดครองซึ่งเกิดจากกลุ่มกบฏใน แพ็กเจ และ โคกูรยอ ซึ่งนำไปสู่ยุค สามอาณาจักรหลัง ในช่วงปลายศตวรรษที่ 9
คยองจูยังคงเป็นเมืองหลวงของชิลลาตลอดการดำรงอยู่ของราชวงศ์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงพลังของระบบราชการที่ใช้ในซิลลา โดยใช้ระบบ "Bone Clan Class" กลุ่มคนที่มีอำนาจกลุ่มเล็กๆ ('Bone Class') สามารถปกครองผู้คนจำนวนมากได้ เพื่อรักษากฎข้อนี้ไว้กับผู้คนจำนวนมากเป็นระยะเวลานาน รัฐบาลต้องรักษาความสามัคคีของระบบกระดูก[3]
แม้จะมีความไม่มั่นคงทางการเมือง แต่ อาณาจักรรวมชิลลา ก็เป็นประเทศที่เจริญรุ่งเรือง[4] และเมืองหลวง ซอราโบล (ปัจจุบันคือคยองจู)[5] เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลกในขณะนั้น[6][7][8][9] ด้วยความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับ ราชวงศ์ถัง พุทธศาสนา และ ลัทธิขงจื๊อ จึงกลายเป็นอุดมการณ์ทางปรัชญาหลักของชนชั้นสูงตลอดจนเสาหลักของสถาปัตยกรรมและวิจิตรศิลป์ในยุคนั้น กษัตริย์องค์สุดท้ายคือ พระเจ้าคยองซุน ปกครองรัฐในนามเท่านั้น และได้ยอมแพ้ต่อ วังกอน แห่ง โครยอ ที่เกิดใหม่ในปี ค.ศ. 935 ทำให้ราชวงศ์ชิลลาถึงจุดจบ
การรวมอาณาจักร
[แก้]ในปีค.ศ. 660 พระเจ้ามุนมูได้สั่งกองทัพให้ทำการโจมตีอาณาจักรแพ็กเจ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
วัฒนธรรม
[แก้]- พุทธศาสนา
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
- ลัทธิขงจื๊อ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
- การพิมพ์ด้วยบล็อกไม้
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เศรษฐกิจ
[แก้]ในช่วงแรก อาณาจักรชิลลาได้มีการลดภาษีการค้าเกษตรลงหนึ่งในสิบจากเดิมก่อนที่จะทำการรวมกันและกำหนดให้เมืองขึ้นได้ชำระด้วยสินค้าชนิดพิเศษของเมืองนั้น
อาณาจักรรวมชิลลาได้ทำสำมะโนประชากรทางด้านขนาดเมืองและด้านประชากร ตลอดจนม้า วัว รวมทั้งผลิตผลชนิดพิเศษ และได้ทำการบันทึกข้อมูลในมินจงมุนโซ (민정문서) ซึ่งการรายงานมีการจัดทำโดยผู้นำของแต่ละเมือง[10]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Lee 1984, pp. 83–84.
- ↑ 박용운 (1996). 고려시대 개경연구 147~156쪽.
- ↑ Hatada, Takashi (1969). A history of Korea (ภาษาอังกฤษ). Santa Barbara, Calif.: ABC-Clio. ISBN 087436065X.
- ↑ MacGregor, Neil (2011-10-06). A History of the World in 100 Objects (ภาษาอังกฤษ). Penguin UK. ISBN 9780141966830. สืบค้นเมื่อ 30 September 2016.
- ↑ Chŏng, Yang-mo; Smith, Judith G.; Metropolitan Museum of Art (New York, N.Y.) (1998). Arts of Korea (ภาษาอังกฤษ). Metropolitan Museum of Art. p. 230. ISBN 9780870998508. สืบค้นเมื่อ 30 September 2016.
- ↑ International, Rotary (April 1989). The Rotarian (ภาษาอังกฤษ). Rotary International. p. 28. สืบค้นเมื่อ 30 September 2016.
- ↑ Ross, Alan (2013-01-17). After Pusan (ภาษาอังกฤษ). Faber & Faber. ISBN 9780571299355. สืบค้นเมื่อ 30 September 2016.
- ↑ Mason, David A. "Gyeongju, Korea's treasure house". Korea.net. Korean Culture and Information Service (KOCIS). คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 3 October 2016. สืบค้นเมื่อ 30 September 2016.
- ↑ Adams, Edward Ben (1990). Koreaʾs pottery heritage (ภาษาอังกฤษ). Seoul International Pub. House. p. 53. สืบค้นเมื่อ 30 September 2016.
- ↑ Korean history for high school p.141, issued by The National History Compilation Committee of the Republic of Korea.