ผู้ใช้:The great emperror/กระบะทราย-ถวายพระนาม
"ถวายพระนาม" | ||||
---|---|---|---|---|
ซิงเกิลโดยเพลิน พรหมแดน | ||||
จากอัลบั้มพระพุทธประวัติ | ||||
วางจำหน่าย | ค.ศ. 2013 | |||
ความยาว | 5:14 | |||
ผู้ประพันธ์เพลง | สมส่วน พรหมสว่าง | |||
ลำดับซิงเกิลของเพลิน พรหมแดน | ||||
|
ถวายพระนาม เป็นเพลงลำดับที่หกของเพลงพระพุทธประวัติ ประพันธ์เนื้อเพลง/ เรียบเรียงโดย สมส่วน พรหมสว่าง ขับร้องโดย เพลิน พรหมแดน เพลงนี้มีเนื้อหากล่าวถึงการถวายพระนามพระกุมาร จนจบลงที่เหตุการณ์การสวรรคตของพระนางสิริมหามายา เพลงนี้มีความยาว 5 นาที 14 วินาที
เนื้อเพลง
[แก้]- พระกุมารมีชันษาได้ 5 วัน
พระราชบิดา สั่งการดังพระประสงค์
ให้เชิญพราหมณ์ 108 คนมาเสริมส่ง
ให้ทำนายองค์ลักษณะ พระกุมาร
คัดเลือกหาพราหมณ์ลือนามเพียง 8 คน
ที่เลิศล้นวิชา อย่างเชี่ยวชาญ
ทั้ง 7 พราหมณ์ทูลความนั้น 2 ประการ
หากอยู่ครองบ้านเมืองนั้น จะเดชา
จะได้เป็น พระเจ้าจักรพรรดิ
รุ่งเรืองอำนาจ ราชทรัพย์ นับคณนา
ถ้าออกบวช บำเพ็ญภาวนา
จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมโพธิญาณ
แต่โกณฑัญญะ พราหมณะได้ทำนาย
เป็นคนสุดท้าย ทำนายพระกุมาร
จะต้องไป ออกบวช เพศพรหมจรรย์
อย่างเดียวเท่านั้น มิผันเป็นอื่นไป
กษัตริย์เจ้าจึงตรัสถามพราหมณ์ทั้ง 8 คน
พระโอรสตน บรรพชา สาเหตุใด
เห็นนิมิต 4 คนแก่ คนเจ็บ คนตาย
และบรรพชิต พราหมณ์ได้ถวายคำ
พระเจ้าสุทโธทนะ คะนึงพระทัย
มิอยากให้ พระโอรส ออกบวชนำ
จึงมีบัญชาเด็ดขาด ประกาศคำ
นิมิต 4 ห้าม นำใกล้ โอรสเรา
บทบรรยาย
[แก้]บทบรรยาย : สมส่วน พรหมสว่าง
ผู้บรรยาย : เพลิน พรหมแดน (ผู้บรรยาย)
แล้วพราหมณ์ทั้งหลาย ก็พร้อมกันถวายพระนามพระกุมารว่า สิทธัตถะ ซึ่งมีความหมายว่า ประสงค์สิ่งใด สิ่งนั้นย่อมได้ดังประสงค์ และบรรดาขัตติยวงศ์ทั้งหลาย ที่ได้มาร่วมพิธีในวันนั้น ต่างก็มีความปิติโสมนัสยิ่งนัก จึงพร้อมใจกันถวายพระโอรสของตนสกุลละองค์ เพื่อเป็นราชบริพารของพระราชกุมารสิทธัตถะ ส่วนพระนางสิริมหามายาเทวี เมื่อประสูติพระบรมโพธิสัตว์เจ้าล่วงไปเพียง 7 วัน ก็เสด็จทิวงคต ไปบังเกิดเป็นเทพบุตรบนสวรรค์ชั้นดุสิตเทวโลก ตามประเพณีพระพุทธมารดาทุกๆพระองค์ พระเจ้าสุทโธทนะ จึงได้มอบหน้าที่การบำรุงรักษาเลี้ยงดู พระสิทธัตถะกุมาร ให้เป็นภาระของพระนางปชาบดี (พระน้านาง) ซึ่งในเวลาต่อมา พระเจ้าสุทโธทนะ ก็ทรงยกขึ้นเป็นพระมเหสี พระนางปชาบดีโคตมี ก็ทรงมีพระเมตตารักใคร่บำรุงรักษาพระกุมารเป็นอย่างดียิ่ง ถึงแม้ว่าต่อมาพระนางเจ้านั้น จะมีพระโอรสและพระธิดาทั้ง 2 พระองค์ คือ นันทกุมาร และรูปนันทกุมารี แต่พระนางก็ยังคงคอยบำรุงดูแลเจ้าชายสิทธัตถะ ด้วยตัวของพระนางเอง ส่วนพระโอรสและธิดานั้น พระนางได้มอบให้เป็นภาระหน้าที่ของพี่เลี้ยงนางนมทั้งหลาย คอยบำรุงรักษาแทนพระนางตลอดมา[1]
ความหมาย และเนื้อหาของเพลง
[แก้]ครั้นพระกุมารประสูติมาได้ 5 วัน ก็ได้มีการเชื้เชิญเหล่าพราหมณ์และนักปราชญ์มาประชุม เพื่อทำพิธีสระเกล้าให้พระกุมาร บรรดาพราหมณ์ทั้งหลายได้ทำนายว่า "พระกุมารนั้น หากเป็นฆราวาสก็จักเป็นพระราชาผู้ยิ่งใหญ่ หากออกบวชก็จะบรรลุเป็นศาสดาเอกของโลก" แต่โกณฑัญญพราหมณ์แย้งว่า "พระกุมารเมื่อเติบใหญ่นั้นจะไม่เป็นพระราชาแน่นอน แต่จะสละราชบัลลังก์ และทุกสิ่งไว้เบื้องหลัง เพื่ออกบวชเป็นพระพุทธเจ้าเท่านั้น"
พระเจ้าสุทโธทนะทรงไม่สบายพระทัยนักเมื่อรู้ว่าพระกุมารจักไม่เป็นพระราชาในอนาคต เมื่อได้เจอนิมิต 4 คือ คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และบรรพชิต พระองค์ทรงปรารถนาให้พระกุมารขึ้นครองราชบัลลังก์เพื่อปกครองนครเหมือนดังเช่นพระองค์ จึงทรงสั่งห้ามให้บุคคลทั้ง 4 ประเภทอยู่ในเมืองกบิลพัสดุ์อย่างเด็ดขาด[2] แล้วพราหมณ์ทั้งหลาย ก็พร้อมกันถวายพระนามพระกุมารว่า สิทธัตถะ ซึ่งมีความหมายว่า ประสงค์สิ่งใด สิ่งนั้นย่อมได้ดังประสงค์ และบรรดาขัตติยวงศ์ทั้งหลาย ที่ได้มาร่วมพิธีในวันนั้น ต่างก็มีความปิติโสมนัสยิ่งนัก จึงพร้อมใจกันถวายพระโอรสของตนสกุลละองค์ เพื่อเป็นราชบริพารของพระราชกุมารสิทธัตถะ ส่วนพระนางสิริมหามายาเทวี เมื่อประสูติพระบรมโพธิสัตว์เจ้าล่วงไปเพียง 7 วัน ก็เสด็จทิวงคต ไปบังเกิดเป็นเทพบุตรบนสวรรค์ชั้นดุสิตเทวโลก ตามประเพณีของพระพุทธมารดาทุกๆพระองค์ พระเจ้าสุทโธทนะ จึงได้มอบหน้าที่การเลี้ยงดู เจ้าชายสิทธัตถะราชกุมาร ให้เป็นภาระหน้าที่ของพระนางปชาบดี (พระน้านาง) ซึ่งในเวลาต่อมา พระเจ้าสุทโธทนะ ก็ทรงยกขึ้นเป็นพระมเหสี พระนางปชาบดีโคตมี ก็ทรงมีพระเมตตารักใคร่พระกุมารเป็นอย่างดียิ่ง ราวกับเป็นโอรสของพระองค์เอง ถึงแม้ว่าต่อมาพระนางเจ้านั้น จะมีพระโอรสและพระธิดาทั้ง 2 พระองค์ คือ นันทกุมาร และรูปนันทกุมารี แต่พระนางก็ยังคงคอยดูแลเจ้าชายสิทธัตถะ ด้วยตัวของพระนางเอง ส่วนพระโอรสและธิดานั้น พระนางได้มอบให้เป็นภาระหน้าที่ของพี่เลี้ยงนางนมทั้งหลาย คอยดูแลเลี้ยงดูแทนพระนางตลอดมา
เกร็ดความรู้
[แก้]รายนามพราหมณ์ที่ถวายพระนามพระกุมาร
[แก้]ภายหลังพระราชโอรสประสูติได้ 5 วันแล้ว พระเจ้าสุทโธทนะ พระราชบิดาได้โปรดให้มีการประชุมใหญ่ ผู้เข้าประชุมมีพระญาติวงศ์ทั้งฝ่ายพระบิดาและฝ่ายพระมารดา มุขอำมาตย์ ราชมนตรี และพราหมณ์ผู้รอบรู้ไตรเวท เพื่อทำพิธีมงคลในการนี้คือพราหมณ์ มีทั้งหมด 108 แต่พราหณ์ผู้ทำหน้าที่นี้จริงๆ มีเพียง 8 นอกนั้นมาในฐานะคล้ายพระอันดับ พราหมณ์ทั้ง 8 มีรายนามดังนี้ คือ
1. รามพราหมณ์
2. โภชพราหมณ์
3. ลักษณพราหมณ์
4. สุทัตตพราหมณ์
5. อัญญพราหมณ์
6. สุยามพราหมณ์
7. ธุชพราหมณ์
8. โกณทัญญพราหมณ์
ที่ประชุมลงมติขนานพระนามพระราชกุมารว่า เจ้าชายสิทธัตถะ ซึ่งเป็นมงคลนามมีความหมายสองนัย นัยหนึ่งหมายความว่า "ผู้ทรงปรารถนาสิ่งใดจะสำเร็จสิ่งนั้นดังพระประสงค์" อีกนัยหนึ่งหมายความว่าพระโอรสพระองค์แรกสมดังที่พระราชบิดาทรงปรารถนา แปลให้เป็นเข้าสำนวนไทยในภาษาสามัญก็ว่า "ได้ลูกชายคนแรกสมตามที่ต้องการ"
พระนามนี้ คนอินเดียทั่วไปในสมัยนั้นไม่นิยมเรียก แต่นิยมเรียกพระโคตรแทน
'พระโคตร' ตรงกับภาษาไทยทุกวันนี้ว่า 'นามสกุล' คนจึงนิยมเรียกพระราชกุมารว่า 'เจ้าชายโคตมะ' หรือ 'โคดม' [3]
ประวัติพระอัญญาโกณฑัญญะ (เบื้องต้น)
[แก้]พระอัญญาโกณฑัญญะ เป็นบุตรพราหมณ์มหาศาลในบ้านพราหมณ์ ซึ่งไม่ห่างไกลจากกรุงกบิลพัสดุ์ เดิมชื่อ "โกณทัญญะ" เมื่อเจริญวัยแล้วได้เข้าศึกษาเล่าเรียนจบไตรเพทและรู้ลักษณะมนต์ คือ ตำราทายลักษณะ
ในคราวที่พระมหาบุรุษประสูติได้ 5 วัน พระเจ้าสุทโธทนะ พระราชบิดาได้เชิญพราหมณ์ 108 คน มาเลี้ยงโภชนาหารในพระราชพิธีทำนายพระลักษณะตามพระราชประเพณี ได้คัดเลือกพราหมณ์ 8 คน ในจำนวนพราหมณ์ทั้งหมดนั้น ให้เป็นผู้ทำนายลักษณะของพระมหาบุรุษ ในขณะนั้น โกณฑัญญะ พราหมณ์ยังเป็นหนุ่ม ได้รับเชิญมาในงานและท่านก็เป็นคนหนึ่งที่ได้รับเลือก
โกณฑัญญะพราหมณ์เป็นผู้ที่มีอายุน้อยที่สุด ในบรรดาที่ได้รับการคัดเลือทั้งหมด พราหมณ์ทั้ง 7 คน เมื่อตรวจดูลักษณะของพระมหาบุรุษแล้วทำนายไว้เป็น 2 ลักษณะ ดังนี้
1. ถ้าอยู่ครองฆราวาสจักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ
2. ถ้าเสด็จออกทรงผนวชจักได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นศาสดาเอกของโลก
ส่วนโกณฑัญญพราหมณ์นั้นมีความแน่ใจว่า พระองค์จักเสด็จออกทรงผนวชแน่นอน จึงทำนายไว้เป็นลักษณะเดียวว่า พระองค์จักเสด็จออกทรงผนวช และจักได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นศาสดาเอกของโลกแน่แท้
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โกณฑัญญพราหมณ์มีความตั้งใจว่า ถ้าพระองค์เสด็จออกทรงผนวชเมื่อไร ถ้าตนเองยังมีชีวิตอยู่จะออกบวชตามเมื่อนั้น[4]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ เนื้อเพลง พระพุทธประวัติ #06 ถวายพระนาม - เพลิน พรหมแดน
- ↑ อ้างอิงบางส่วนจาก หนังสือ พระพุทธเจ้า สำนักพิมพ์ Skybook หน้า 14-15
- ↑ พราหมณาจารย์รับพระลักษณะสมโภชพระกุมาร ถวายพระนามว่า พระสิทธัตถะ จากเว็บ 84000.org
- ↑ ประวัติพระอัญญาโกณฑัญญเถระ จากเว็บ ธรรมะไทย