จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา 2017 เป็นการแข่งขันฟุตบอลแบบเหย้า - เยือน 2 นัด โดยจะลงเล่นในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2017 ระหว่างทีมชนะเลิศของ ลาลิกา ฤดูกาล 2016–17, เรอัลมาดริด, และทีมชนะเลิศของ โกปาเดลเรย์ ฤดูกาล 2016–17, บาร์เซโลนา. นี่เป็นครั้งแรกใน ซูเปร์โกปาเดเอสปัญญา ที่จะมีเกม เอลกลาซีโก นับตั้งแต่ ปี 2012.
เรอัลมาดริดชนะเลิศซูเปร์โกปาเดเอสปัญญาด้วยรวมผลสองนัด 5–1 ทำให้เป็นแชมป์สมัยที่ 10 ของพวกเขา.
ครึ่งแรกของนัดนี้จบลงด้วยการไม่มีประตูใดๆ เกิดขึ้น. นาทีที่ห้าในช่วงครึ่งหลัง, มาร์เซลู โยนข้ามไปแฉลบเท้าของ ปิเก, เป็นผลให้เข้าประตูตัวเอง. ในนาทีที่ 77, ลุยส์ ซัวเรซ ถูกดึงตัวล้มลงในกรอบเขตโทษโดย นาบัส, เป็นผลให้เกิดลูกจุดโทษ, ซึ่งต่อมาเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขันโดย เมสซี. เป็นประตูที่ 25 ของเมสซี่ในการแข่งขันรายการนี้.[1] ในนาทีที่ 80, เรอัลทำประตูที่สองของพวกเขาผ่านการเล่นเคาน์เตอร์ แอทแท็คเมื่อ อิสโก เป็นคนผ่านบอลให้ โรนัลโด เป็นผู้ยิงจากในกรอบเข้ามุมบนฝั่งขวาจากขอบเขตโทษ. โรนัลโดได้รับใบเหลืองสำหรับการถอดเสื้อของเขาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของท่าดีใจหลังทำประตูได้ของเขา. สองนาทีต่อมาเขากลับได้รับใบเหลืองซ้ำอีกครั้งสำหรับการเจตนาพุ่งล้มในกรอบเขตโทษเพื่อหวังได้ลูกโทษ, ซึ่งส่งผลให้เป็นใบแดง, ด้วยเหตุนี้ได้รับโทษแบนห้ามลงสนามในนัดที่สอง. ประตูสุดท้ายของเรอัลได้ประตูในนาทีที่ 90 ในรูปแบบเดียวกับประตูที่สอง, เมื่อ อาเซนซีโอ ได้ยิงในมุมซ้ายบนด้วยการผ่านบอลจาก ลูกัส บัซเกซ.[2][3]
|
ผู้ช่วยผู้ตัดสิน:
นูเญซ เฟร์นันเดซ
เด ฟรันซิสโก กริคัลบา
ผู้ตัดสินที่สี่:
ซันโตส ปาร์กาญา
|
กฏ-กติกา
- 90 นาที.
- มีชื่อผู้เล่นสำรองได้ถึงเจ็ดคน, แต่สามารถเปลี่ยนใช้ได้เพียงแค่สามคน.
|
ประตูแรกมาเร็วตั้งแต่ต้นเกมในนัดที่สองจากการที่นักเตะทีมเรอัลได้ทุ้มบอลเข้ามาในนาทีที่สี่ซึ่งส่งผลให้ได้รับลูกบอลไปให้ อาเซนซีโอ เป็นผู้ยิงประตูจากระยะไกล. เก้านาทีหลังจากผ่านครึ่งชั่วโมงแรก, มาร์เซลู ครอสบอลเข้าในให้กับ แบนเซมา เพื่อควบคุมบอลและเป็นผู้จบสกอร์เองด้วยการยิงฮาล์ฟ-วอลเลย์เข้าไปตุงตาข่ายซึ่งเป็นผลการแข่งขันที่เพียงพอแล้วสำหรับชัยชนะ.[4][5]
|
ผู้ช่วยผู้ตัดสิน:
กาบาเญโร มาร์ตีเนซ
กาเยโก การ์ซีอา
ผู้ตัดสินที่สี่:
กาเยโก กัมบิน
|
กฏ-กติกา
- 90 นาที.
- 30 นาทีของ การต่อเวลาพิเศษถ้ารวมผลสองนัดยังเสมอกันและกฏประตูทีมเยือนยังเท่ากันอยู่.
- การดวลลูกโทษ ถ้าไม่มีการทำประตูในช่วงต่อเวลาพิเศษ.
- มีชื่อผู้เล่นสำรองได้ถึงเจ็ดคน, แต่สามารถเปลี่ยนใช้ได้เพียงแค่สามคน.
|
|
|---|
| การแข่งขัน | |
|---|
| รอบชิงชนะเลิศ | |
|---|
| ก่อนหน้านี้ | |
|---|
|
|---|
|
| การแข่งขันลีกภายในประเทศ | |
|---|
| การแข่งขันชิงถ้วยภายในประเทศ | |
|---|
| การแข่งขันระดับสโมสรยุโรป | |
|---|
เกี่ยวข้องกับ
ทีมชาติ | |
|---|
| ฟุตบอลหญิง | |
|---|
| ฟุตบอลระดับเยาวชน | |
|---|
|
|
|
77' (ลูกโทษ)
