ความเร็วของเงิน
ความเร็วของเงิน (อังกฤษ: velocity of money) คือหน่วยวัดจำนวนครั้งเฉลี่ยของหน่วยเงินว่าถูกใช้ซื้อสินค้าหรือบริการในช่วงระยะเวลาที่กำหนดไปกี่ครั้ง[3] แนวคิดนี้เชื่อมโยงขนาดของกิจกรรมทางเศรษฐกิจกับปริมาณเงิน และอัตราการเปลี่ยนมือของเงินก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่สื่อถึงเงินเฟ้อได้ การวัดความเร็วของเงินมักนิยามว่าคืออัตราส่วนระหว่าง ผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (gross national product) กับปริมาณเงินของประเทศ ถ้าความเร็วของเงินเพิ่มขึ้น หมายถึงมีการเปลี่ยนมือของเงินตราระหว่างบุคคลมากครั้งขึ้น[3] โดยความเร็วของเงินจะผันแปรไปตามเวลาและได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย[4]
ตัวอย่าง
[แก้]ในเศรษฐกิจสมมติขนาดเล็กที่มี ชาวนา กับช่างซ่อมสองคน โดยมีเงินระหว่างกัน 50 บาท และมีธุรกรรมเกิดขึ้นทั้งหมด 3 ครั้งในช่วงเวลาหนึ่งปีดังนี้
- ชาวนาจ่ายค่าซ่อมรถแทรกเตอร์ให้กับช่างซ่อมเป็นเงิน 50 บาท
- ช่างซ่อมซื้อข้าวโพดจากชาวนาเป็นเงิน 40 บาท
- ช่างซ่อมซื้อแมวจากชาวนาเป็นเงิน 10 บาท
จะเห็นได้ว่ามีเงินเปลี่ยนมือทั้งหมด 100 บาทในช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าในระบบจะมีเงินอยู่เพียง 50 บาทในตัวอย่างนี้ มูลค่า 100 บาทเกิดขึ้นได้ เพราะเงินแต่ละบาทถูกใช้ในการซื้อสินค้าและบริการ 2 ครั้ง หรือคิดเป็นความเร็วของเงินที่ 2 ต่อปี
ความเกี่ยวข้องกับอุปสงค์ของเงิน
[แก้]ความเร็วของเงินสามารถมองในอีกมุมเป็นอุปสงค์ของเงินได้ โดยที่ถ้าปริมาณเงินในระบบเท่าเดิม และอัตราดอกเบี้ยสูง คนก็จะไม่ถือเงินสดและพยายามแลกเปลี่ยนเงินไปเป็นสินค้าหรือสินทรัพย์อื่น หรือเรียกว่ามีอุปสงค์ของเงินต่ำ ในทางกลับกัน ถ้าอัตราดอกเบี้ยต่ำ ต้นทุนค่าเสียโอกาสก็จะน้อย ทำให้มีความเร็วของเงินที่ต่ำและอุปสงค์ของเงินสูง
การวัดโดยอ้อม
[แก้]ในทางปฏิบัติ การวัดความเร็วของเงินมักทำโดยวิธีการทางอ้อม โดยความเร็วของเงินสามารถคำนวณได้จากสูตร
โดยที่
- คือ ความเร็วของเงินที่เกิดจากทุกธุรกรรมในช่วงเวลาที่กำหนด
- คือ ระดับราคา (price level)
- คือ มูลค่าที่แท้จริงของธุรกรรมในช่วงเวลาหนึ่ง
- คือ มูลค่าของปริมาณเงินในระบบทั้งหมดโดยเฉลี่ยของประเทศ
ดังนั้น จึงเท่ากับมูลค่าเงิน (nominal) ของธุรกรรมทั้งหมดในระยะเวลาหนึ่ง ๆ
หรือในอีกมุมมอง สามารถเขียนความเร็วของเงินได้ในรูปแบบ
โดยที่
- คือความเร็วของเงินที่เกิดจากธุรกรรมที่นับเป็นผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศหรือประชาชาติ
- คือ ปริมาณที่แท้จริงของผลิตภัณฑ์หรือบริการที่พึ่งผลิต
- มูลค่าเงินของผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศหรือประชาชาติ
ข้อวิจารณ์
[แก้]Ludwig von Mises กล่าวในจดหมายถึง Henry Hazlitt เมื่อ ค.ศ. 1968 ว่า "จุดด้อยของแนวคิดความเร็วการหมุนเวียนเงินในระบบคือมันไม่ได้ตั้งต้นจากการกระทำของบุคคล แต่มองปัญหาจากมุมของระบบเศรษฐกิจโดยรวม แนวคิดนี้โดยตัวมันเองเป็นวิธีที่บกพร่องในการบรรลุปัญหาว่าด้วยราคาและกำลังซื้อ แนวคิดนี้ถือว่าราคาจะต้องเปลี่ยนไปเป็นสัดส่วนกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดกับปริมาณเงิน ถ้าให้อย่างอื่นเท่ากัน ซึ่งไม่จริงเลย"[5]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ M2 Definition – Investopedia
- ↑ M2 Money Stock – ธนาคารกลางสหรัฐสาขาเซนต์หลุยส์
- ↑ 3.0 3.1 "Money Velocity". Federal Reserve Bank of St. Louis. สืบค้นเมื่อ October 28, 2013.
- ↑ Mishkin, Frederic S. The Economics of Money, Banking, and Financial Markets. Seventh Edition. Addison–Wesley. 2004. p. 520.
- ↑ Quoted in Hazlitt, Henry. 'Velocity of Circulation' in James Muir Waller (ed.). Money, the market, and the state: economic essays in honor of James Muir Waller. University of Georgia Press, 1968, p. 42.