ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ไม้ผล"
519244001CTE9 (คุย | ส่วนร่วม) ไม่มีความย่อการแก้ไข |
Rescuing 1 sources and tagging 0 as dead.) #IABot (v2.0.8.7 |
||
(ไม่แสดง 9 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้ 8 คน) | |||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
⚫ | |||
''ไม้ผล ''มีทั้งไม้ยืนต้นและไม้ล้มลุก ไม้ผลยืนต้นมีตั้งแต่ลำต้นขนาดเล็กไปจนถึงลำต้นขนาดใหญ่ มีทั้งที่รับประทานผลสุกและรับประทานผลดิบ |
|||
⚫ | |||
'''ไม้ผล''' คือ ต้นไม้ที่ออกลูกออกผลให้เรารับประทาน<ref>{{Cite web |url=http://www.wangtakrai.com/panmai/panmai.php?id=4 |title=พรรณไม้งามที่วังตะไคร้ |access-date=2011-05-18 |archive-date=2011-10-07 |archive-url=https://web.archive.org/web/20111007051909/http://www.wangtakrai.com/panmai/panmai.php?id=4 |url-status=dead }}</ref> เราเรียกลูกหรือผลของมันว่า "ลูกไม้" หรือ "ผลไม้" สำหรับไม้ผลนั้น มีทั้งไม้ยืนต้นและไม้ล้มลุก ซึ่งไม้ผลยืนต้นมีตั้งแต่ลำต้นขนาดเล็กไปจนถึงลำต้นขนาดใหญ่ มีทั้งที่รับประทานผลสุกและรับประทานผลดิบ |
|||
⚫ | การผลิตผลไม้ตามปกติอาศัยธรรมชาติเป็นปัจจัยหลักหากเป็นการผลิตเพื่อบริโภคเองในครัวเรือน ผู้ปลูกก็สามารถรอคอยจนกระทั่งถึงฤดูกาลออกดอก |
||
⚫ | |||
== การผลิต == |
|||
⚫ | |||
⚫ | การผลิตผลไม้ตามปกติอาศัยธรรมชาติเป็นปัจจัยหลักหากเป็นการผลิตเพื่อบริโภคเองในครัวเรือน ผู้ปลูกก็สามารถรอคอยจนกระทั่งถึงฤดูกาลออกดอกและติดผลตามปกติ แต่การปลูกเพื่อการค้า ซึ่งราคาของผลิตผลจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปริมาณผลิตผลในขณะนั้นๆ และคุณภาพของผลไม้คือถ้าเป็นช่วงจังหวะที่มีผลไม้ชนิดนั้นออกสู่ตลาดมาก เช่น ในฤดูกาลออกดอกติดผลตามปกติราคาของผลิตผลก็จะต่ำลงแต่ในทางตรงกันข้าม ถ้ามีผลไม้ออกมาสู่ตลาดน้อยราคาก็ย่อมต้องสูงขึ้น ดังนั้น ผู้ที่ปลูกไม้ผลเป็นการค้าหลายราย จึงมีความต้องการที่จะผลิตผลไม้นอกฤดูกาลปกติ เพื่อที่จะได้จำหน่ายผลไม้ในปริมาณเท่าเดิมแต่ได้ราคาเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้การผลิตผลไม้นอกฤดูกาลจำเป็นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีที่จำเป็นต้องใช้จึงจะได้ผลตามที่ต้องการ |
||
''ลำไย '' |
|||
⚫ | |||
== ประเทศไทย == |
|||
'' ทุเรียน '' |
|||
⚫ | ประเทศไทยมีเขตที่ตั้งอยู่ในซีกโลกเหนือระหว่างเส้นรุ้งที่ 6 – 20 องศาเหนือ สภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกันทำให้เกิดความหลากหลายในการกระจายของผลผลิตไม้เมืองร้อนออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดปี พื้นที่ปลูกไม้ผลตามภาคต่าง ๆ ของประเทศไทยในปี [[พ.ศ. 2548]] ประมาณ 9.68 ล้านไร่ แบ่งออกเป็นมะม่วง 22.68% ทุเรียน 10.08% ลำไย 10.07% กล้วยน้ำว้า 8.33% เงาะ 6.79% และผลไม้อื่น ๆ 42.05% ให้ผลผลิต 12.69 ล้านตัน การส่งออกทั้งในรูปผลสดและผลิตภัณฑ์ มีปริมาณ 1.4 ล้านตัน ด้วยมูลค่ามากกว่า 40,000 ล้านบาท หรือประมาณ 6.6% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตร ไม้ผลเมืองร้อนของประเทศไทยสามารถแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ตามความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ คือ |
||
⚫ | |||
'' มังคุด '' |
|||
*กลุ่มที่ 1 - ไม้ผลที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจมากและมีมูลค่าการส่งออกสูง จำนวน 10 ชนิด ได้แก่ [[ลำไย]], [[ทุเรียน]], [[มังคุด]], [[ลิ้นจี่]], [[มะม่วง]], [[ส้มโอ]], [[เงาะ]], [[สับปะรด]], [[มะพร้าว]]น้ำหอม และ[[มะขาม]] |
|||
⚫ | |||
⚫ | |||
'' ลิ้นจี่ '' |
|||
⚫ | |||
== ไม้ผลทางเศรษฐกิจของไทย == |
|||
'' มะม่วง '' |
|||
[[ไฟล์:Mangues.JPG|thumb|right|200px]] |
|||
⚫ | |||
[[ไฟล์:Durio kutej F 070203 ime.jpg|thumb|right|200px]] |
|||
''ส้มโอ '' |
|||
[[ไฟล์:Rambutans.JPG|thumb|right|200px]] |
|||
⚫ | |||
[[ไฟล์:Pineapple1.JPG|thumb|right|200px]] |
|||
''เงาะ '' |
|||
⚫ | *''' [[ลำไย]] ''' - มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนตอนใต้ เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ในปี [[พ.ศ. 2547]] มีพื้นที่ปลูกทั้งประเทศ 938,033 ไร่ ผลผลิต 868,022.93 ตัน ผลผลิตลำไยส่วนใหญ่บริโภคภายในประเทศ ประเทศไทยส่งออกลำไยสดปริมาณ 133,646 ตัน ลำไยแช่แข็งส่งออก 787 ตัน และลำไยแห้งส่งออก 94,774 ตัน |
||
⚫ | |||
⚫ | *''' [[ทุเรียน]] ''' - มีถิ่นกำเนิดในสุมาตรา จัดเป็นไม้ผลเศรษฐกิจของประเทศไทย มีการปลูกแทบทุกภาค แหล่งปลูกที่สำคัญอยู่ในภาคตะวันออกและภาคใต้ นอกจากบริโภคภายในประเทศแล้วยังมีการส่งออกทุเรียนสดไปยังประเทศจีน, ฮ่องกงและไต้หวัน ทุเรียนแช่แข็งส่งไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา และทุเรียนกวนส่งไปยังประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย |
||
''สับปะรด '' |
|||
⚫ | *''' [[มังคุด]] ''' - มีถิ่นกำเนิดในคาบสมุทรมาลายู ประเทศไทยมีศักยภาพในการส่งออกสูง เนื่องจากรสชาติเป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั่วไป มีการปลูกมากทางภาคใต้และภาคตะวันออกของประเทศ ประเทศไทยส่งออกมังคุดเป็นอันดับ 1 ของโลก ประเทศคู่ค้าสำคัญที่มีการนำเข้ามังคุด ได้แก่ จีน, ฮ่องกง และญี่ปุ่น ส่วนการส่งออกมังคุดแช่แข็งไปยังประเทศญี่ปุ่น |
||
⚫ | |||
⚫ | *''' [[ลิ้นจี่]] ''' - เป็นไม้ผลกึ่งเมืองร้อนกึ่งเมืองหนาว มีถิ่นกำเนิดที่เมืองกวางดองและฟูเจียนทางตอนใต้ของประเทศจีนและมีหลายสายพันธุ์ เช่น พันธุ์ฮงฮวย, พันธุ์โอวเฮียะ, พันธุ์กิมเจ็งและพันธุ์จักรพรรดิเป็นต้น ประเทศไทยมีการปลูกมากที่สุดในภาคเหนือ มีการส่งออกทั้งลิ้นจี่สดและลิ้นจี่กระป๋อง ประเทศคู่ค้าสำคัญที่ไทยส่งออกลิ้นจี่สูงที่สุดได้แก่ มาเลเซีย รองลงมาคือ สิงคโปร์และฮ่องกง ตามลำดับ |
||
''มะพร้างน้ำหอม '' |
|||
⚫ | |||
⚫ | |||
⚫ | |||
''มะขาม '' |
|||
⚫ | *''' [[เงาะ]] ''' - เป็นไม้ผลเขตร้อนของเอเชียมีถิ่นกำเนิดแถบหมู่เกาะมลายู ต่อมาได้กระจายพันธุ์ไปยังประเทศต่าง ๆ ได้แก่ สิงคโปร์, ไทย, พม่า รวมทั้งประเทศในแถบอเมริกากลาง พื้นที่ปลูกเงาะในประเทศไทยส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกและรองลงมาคือภาคใต้ ตลาดหลักที่สำคัญคือตลาดภายในประเทศ มีการส่งออกเงาะในรูปแบบผลไม้สดและผลไม้กระป๋องสอดไส้สับปะรดในน้ำเชื่อม |
||
เป็นไม้ผลที่สำคัญของชนิดหนึ่ง มะขามในประเทศไทยมี 2 ชนิด คือ มะขามหวาน มีถิ่นกำเนิดในเอเชียใต้และแอฟริกาตะวันออก ชนิดที่ 2 มะขามเปรี้ยว มีถิ่นกำเนิดแถบร้อนของทวีปแอฟริกา สำหรับพันธุ์มะขามในประเทศไทย มีดังนี้ มะขามหวาน ได้แก่ พันธุ์สีทอง ศรีชมพู ขันตี อินทผลัม ประกายทอง มะขามเปรี้ยว ได้แก่ พันธุ์ฝักโต และพันธุ์แนะนำของกรมวิชาการเกษตร คือ พันธุ์ศรีสะเกษ 019<br /><br /> |
|||
⚫ | |||
⚫ | |||
*''' [[มะขาม]] ''' - เป็นไม้ผลที่สำคัญชนิดหนึ่งของประเทศไทย มะขามในประเทศไทยมี 2 ชนิด คือ |
|||
**มะขามหวาน - มีถิ่นกำเนิดใน[[เอเชียใต้]]และ[[แอฟริกาตะวันออก]] พันธุ์มะขามหวานในประเทศไทยได้แก่ พันธุ์สีทอง, พันธุ์ศรีชมพู, พันธุ์ขันตี, พันธุ์อินทผลัมและพันธุ์ประกายทอง |
|||
**มะขามเปรี้ยว - มีถิ่นกำเนิดแถบร้อนของ[[ทวีปแอฟริกา]] พันธุ์มะขามเปรี้ยวในประเทศไทยได้แก่ พันธุ์ฝักโตและพันธุ์แนะนำของกรมวิชาการเกษตรคือ พันธุ์ศรีสะเกษ 019 |
|||
ในส่วนของการส่งเสริม[[วิชาชีพเกษตร]]ของวิทยาลัยเกษตรกรรมทั่วทั้งประเทศไทยก็ได้มีการส่งเสริมให้ความรู้กับเกษตรกรในพื้นที่และมีการจัดการเรียนการสอนเพื่อผลิตเกษตรกรไม้ผลที่มีคุณภาพ |
ในส่วนของการส่งเสริม[[วิชาชีพเกษตร]]ของวิทยาลัยเกษตรกรรมทั่วทั้งประเทศไทยก็ได้มีการส่งเสริมให้ความรู้กับเกษตรกรในพื้นที่และมีการจัดการเรียนการสอนเพื่อผลิตเกษตรกรไม้ผลที่มีคุณภาพ |
||
== |
== อ้างอิง == |
||
⚫ | |||
{{เริ่มอ้างอิง}} |
|||
⚫ | |||
* [http://kanchanapisek.or.th/kp6/BOOK5/chapter2/t5-2-s.htm ไม้ผล] {{Webarchive|url=https://web.archive.org/web/20090228093519/http://www.kanchanapisek.or.th/kp6/BOOK5/chapter2/t5-2-s.htm |date=2009-02-28 }} |
|||
{{จบอ้างอิง}} |
|||
{{รายการอ้างอิง}} |
|||
[[หมวดหมู่:พืช]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:17, 9 เมษายน 2565
ไม้ผล คือ ต้นไม้ที่ออกลูกออกผลให้เรารับประทาน[1] เราเรียกลูกหรือผลของมันว่า "ลูกไม้" หรือ "ผลไม้" สำหรับไม้ผลนั้น มีทั้งไม้ยืนต้นและไม้ล้มลุก ซึ่งไม้ผลยืนต้นมีตั้งแต่ลำต้นขนาดเล็กไปจนถึงลำต้นขนาดใหญ่ มีทั้งที่รับประทานผลสุกและรับประทานผลดิบ
การผลิต
การผลิตผลไม้ตามปกติอาศัยธรรมชาติเป็นปัจจัยหลักหากเป็นการผลิตเพื่อบริโภคเองในครัวเรือน ผู้ปลูกก็สามารถรอคอยจนกระทั่งถึงฤดูกาลออกดอกและติดผลตามปกติ แต่การปลูกเพื่อการค้า ซึ่งราคาของผลิตผลจะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับปริมาณผลิตผลในขณะนั้นๆ และคุณภาพของผลไม้คือถ้าเป็นช่วงจังหวะที่มีผลไม้ชนิดนั้นออกสู่ตลาดมาก เช่น ในฤดูกาลออกดอกติดผลตามปกติราคาของผลิตผลก็จะต่ำลงแต่ในทางตรงกันข้าม ถ้ามีผลไม้ออกมาสู่ตลาดน้อยราคาก็ย่อมต้องสูงขึ้น ดังนั้น ผู้ที่ปลูกไม้ผลเป็นการค้าหลายราย จึงมีความต้องการที่จะผลิตผลไม้นอกฤดูกาลปกติ เพื่อที่จะได้จำหน่ายผลไม้ในปริมาณเท่าเดิมแต่ได้ราคาเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้การผลิตผลไม้นอกฤดูกาลจำเป็นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีที่จำเป็นต้องใช้จึงจะได้ผลตามที่ต้องการ
ประเทศไทย
ประเทศไทยมีเขตที่ตั้งอยู่ในซีกโลกเหนือระหว่างเส้นรุ้งที่ 6 – 20 องศาเหนือ สภาพภูมิอากาศที่แตกต่างกันทำให้เกิดความหลากหลายในการกระจายของผลผลิตไม้เมืองร้อนออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดปี พื้นที่ปลูกไม้ผลตามภาคต่าง ๆ ของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2548 ประมาณ 9.68 ล้านไร่ แบ่งออกเป็นมะม่วง 22.68% ทุเรียน 10.08% ลำไย 10.07% กล้วยน้ำว้า 8.33% เงาะ 6.79% และผลไม้อื่น ๆ 42.05% ให้ผลผลิต 12.69 ล้านตัน การส่งออกทั้งในรูปผลสดและผลิตภัณฑ์ มีปริมาณ 1.4 ล้านตัน ด้วยมูลค่ามากกว่า 40,000 ล้านบาท หรือประมาณ 6.6% ของมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตร ไม้ผลเมืองร้อนของประเทศไทยสามารถแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ ตามความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจ คือ
- กลุ่มที่ 1 - ไม้ผลที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจมากและมีมูลค่าการส่งออกสูง จำนวน 10 ชนิด ได้แก่ ลำไย, ทุเรียน, มังคุด, ลิ้นจี่, มะม่วง, ส้มโอ, เงาะ, สับปะรด, มะพร้าวน้ำหอม และมะขาม
- กลุ่มที่ 2 - ไม้ผลที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจในอนาคตหรือเป็นไม้ผลท้องถิ่นหรือพื้นเมือง มีการบริโภคภายในประเทศมากกว่าการส่งออก ได้แก่ กระท้อน, ชมพู่, น้อยหน่า, พุทรา, มะปราง, ฝรั่ง, ลองกอง, ลางสาด, สละ, ขนุน, มะนาว, องุ่น และกล้วย เป็นต้น
ไม้ผลทางเศรษฐกิจของไทย
- ลำไย - มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีนตอนใต้ เป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2547 มีพื้นที่ปลูกทั้งประเทศ 938,033 ไร่ ผลผลิต 868,022.93 ตัน ผลผลิตลำไยส่วนใหญ่บริโภคภายในประเทศ ประเทศไทยส่งออกลำไยสดปริมาณ 133,646 ตัน ลำไยแช่แข็งส่งออก 787 ตัน และลำไยแห้งส่งออก 94,774 ตัน
- ทุเรียน - มีถิ่นกำเนิดในสุมาตรา จัดเป็นไม้ผลเศรษฐกิจของประเทศไทย มีการปลูกแทบทุกภาค แหล่งปลูกที่สำคัญอยู่ในภาคตะวันออกและภาคใต้ นอกจากบริโภคภายในประเทศแล้วยังมีการส่งออกทุเรียนสดไปยังประเทศจีน, ฮ่องกงและไต้หวัน ทุเรียนแช่แข็งส่งไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา และทุเรียนกวนส่งไปยังประเทศสิงคโปร์และมาเลเซีย
- มังคุด - มีถิ่นกำเนิดในคาบสมุทรมาลายู ประเทศไทยมีศักยภาพในการส่งออกสูง เนื่องจากรสชาติเป็นที่นิยมของผู้บริโภคทั่วไป มีการปลูกมากทางภาคใต้และภาคตะวันออกของประเทศ ประเทศไทยส่งออกมังคุดเป็นอันดับ 1 ของโลก ประเทศคู่ค้าสำคัญที่มีการนำเข้ามังคุด ได้แก่ จีน, ฮ่องกง และญี่ปุ่น ส่วนการส่งออกมังคุดแช่แข็งไปยังประเทศญี่ปุ่น
- ลิ้นจี่ - เป็นไม้ผลกึ่งเมืองร้อนกึ่งเมืองหนาว มีถิ่นกำเนิดที่เมืองกวางดองและฟูเจียนทางตอนใต้ของประเทศจีนและมีหลายสายพันธุ์ เช่น พันธุ์ฮงฮวย, พันธุ์โอวเฮียะ, พันธุ์กิมเจ็งและพันธุ์จักรพรรดิเป็นต้น ประเทศไทยมีการปลูกมากที่สุดในภาคเหนือ มีการส่งออกทั้งลิ้นจี่สดและลิ้นจี่กระป๋อง ประเทศคู่ค้าสำคัญที่ไทยส่งออกลิ้นจี่สูงที่สุดได้แก่ มาเลเซีย รองลงมาคือ สิงคโปร์และฮ่องกง ตามลำดับ
- มะม่วง - เป็นไม้ผลที่มีถิ่นกำเนิดในอินโดจีน - พม่า และในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีการปลูกทุกภาคของประเทศไทย มีการบริโภคภายในประเทศ การส่งออกต่างประเทศมีทั้งในรูปผลไม้สดและแปรรูป โดยพันธุ์ที่มีศักยภาพในการส่งออกได้แก่ น้ำดอกไม้สีทอง, น้ำดอกไม้มหาชนก และโชคอนันต์
- ส้มโอ - เป็นไม้ผลที่มีถิ่นกำเนิดทางเกาะมลายูและหมู่เกาะโปลินีเซีย มีศักยภาพการส่งออกสูง มีลักษณะเด่นคือรสชาติดีและผลสามารถเก็บรักษาได้นาน ประเทศผู้นำเข้าส้มโอจากประเทศไทยที่สำคัญ ได้แก่ แคนนาดา, จีน, เนเธอแลนด์และฮ่องกง
- เงาะ - เป็นไม้ผลเขตร้อนของเอเชียมีถิ่นกำเนิดแถบหมู่เกาะมลายู ต่อมาได้กระจายพันธุ์ไปยังประเทศต่าง ๆ ได้แก่ สิงคโปร์, ไทย, พม่า รวมทั้งประเทศในแถบอเมริกากลาง พื้นที่ปลูกเงาะในประเทศไทยส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกและรองลงมาคือภาคใต้ ตลาดหลักที่สำคัญคือตลาดภายในประเทศ มีการส่งออกเงาะในรูปแบบผลไม้สดและผลไม้กระป๋องสอดไส้สับปะรดในน้ำเชื่อม
- สับปะรด - เป็นไม้ผลที่มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของทวีปอเมริกาใต้และบริเวณตอนกลางและตอนใต้ของประเทศบราซิล สับปะรดเป็นพืชที่ทำรายได้และชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยประเทศไทยส่งออกสับปะรดสดและผลิตภัณฑ์สับปะรด ทั้งสับปะรดกระป๋องและน้ำสับปะรดได้เป็นอันดับหนึ่งของโลก
- มะพร้าวน้ำหอม - เป็นไม้ผลที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศไทยและเป็นแหล่งผลิตมะพร้าวน้ำหอมประเทศเดียวในโลก มีการส่งออกในรูปผลอ่อนไปยังต่างประเทศ โดยประเทศนำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ ไต้หวัน, สหรัฐอเมริกา, ฮ่องกง, ญี่ปุ่นและสิงคโปร์ และมีแนวโน้มการส่งออกที่เพิ่มมากขึ้นด้วย
- มะขาม - เป็นไม้ผลที่สำคัญชนิดหนึ่งของประเทศไทย มะขามในประเทศไทยมี 2 ชนิด คือ
- มะขามหวาน - มีถิ่นกำเนิดในเอเชียใต้และแอฟริกาตะวันออก พันธุ์มะขามหวานในประเทศไทยได้แก่ พันธุ์สีทอง, พันธุ์ศรีชมพู, พันธุ์ขันตี, พันธุ์อินทผลัมและพันธุ์ประกายทอง
- มะขามเปรี้ยว - มีถิ่นกำเนิดแถบร้อนของทวีปแอฟริกา พันธุ์มะขามเปรี้ยวในประเทศไทยได้แก่ พันธุ์ฝักโตและพันธุ์แนะนำของกรมวิชาการเกษตรคือ พันธุ์ศรีสะเกษ 019
ในส่วนของการส่งเสริมวิชาชีพเกษตรของวิทยาลัยเกษตรกรรมทั่วทั้งประเทศไทยก็ได้มีการส่งเสริมให้ความรู้กับเกษตรกรในพื้นที่และมีการจัดการเรียนการสอนเพื่อผลิตเกษตรกรไม้ผลที่มีคุณภาพ
อ้างอิง
- เอกสารวิชาการงานราชพฤกษ์ 2549:กรมวิชาการ “ไม้ผลเมืองไทย”
- ไม้ผล เก็บถาวร 2009-02-28 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- ↑ "พรรณไม้งามที่วังตะไคร้". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2011-10-07. สืบค้นเมื่อ 2011-05-18.