อะลิอูโนแห่งพรอว็องส์
พระนางอะลิอูโนแห่งพรอว็องส์ สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ (กาตาลา: Elionor de Provença; อังกฤษ: Eleanor of Provence) (ราว ค.ศ. 1223 – 26 มิถุนายน ค.ศ. 1291)
อะลิอูโนแห่งพรอว็องส์ | |
---|---|
สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ | |
ดำรงพระยศ | 14 มกราคม ค.ศ. 1236 - 16 พฤศจิกายน ค.ศ. 1272 |
ราชาภิเษก | 20 มกราคม ค.ศ. 1236 |
พระราชสมภพ | ประมาณ ค.ศ 1223 แอ็กซ็องพรอว็องส์ |
สวรรคต | 24/25 มิถุนายน ค.ศ 1291 (ประมาณ 68 พรรษา) |
คู่อภิเษก | พระเจ้าเฮนรีที่ 3 แห่งอังกฤษ |
พระบุตร | พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 มาร์กาเร็ตแห่งอังกฤษ สมเด็จพระราชินีแห่งสกอตแลนด์ เบียทริซแห่งอังกฤษ ดัชเชสแห่งบริตานี เอ็ดมุนด์ ครอสแบ็ค เอิร์ลแห่งแลงคาสเตอร์ที่ 1 เจ้าหญิงแคทเธอรีนแห่งอังกฤษ |
ราชวงศ์ | บาร์เซโลนา |
พระบิดา | ราโมน บารังเกที่ 4 เคานต์แห่งพรอว็องส์ |
พระมารดา | เบียทริซแห่งซาวอย |
ครอบครัว
แก้อะลิอูโนแห่งพรอว็องส์เกิดที่แอ็กซ็อง-พรอว็องส์ เป็นธิดาคนที่สองของราโมน บารังเกที่ 4 เคานต์แห่งพรอว็องส์ (Ramon Berenguer IV, Count of Provence) และเบียทริซแห่งซาวอย (Beatrice of Savoy) ลูกสาวทั้งสี่คนได้เป็นพระราชินีกันทุกคน อะลิอูโนก็เช่นเดียวกับพระมารดาและพระอัยกีที่ทรงได้ชื่อว่าเป็นผู้มีพระสิริโฉมงดงาม มีพระเกศาสีน้ำตาลไหม้และพระเนตรที่งดงาม[1] Peter Langtoft speaks of her as "The erle's daughter, the fairest may of life".[2] เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน ค.ศ. 1235 อะลิอูโนก็ทรงหมั้นหมายกับสมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 3 แห่งอังกฤษ[3] แมทธิว แพริสบรรยายว่าทรง “jamque duodennem” (มีพระชนมายุสิบสองพรรษา) เมื่อเสด็จมาถึงราชอาณาจักรอังกฤษเพื่อการเสกสมรส ทรงเสกสมรสเมื่อวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 1236 พระนางเอลิเนอร์และพระเจ้าเฮนรีมีพระราชโอรสธิดาด้วยกันห้าพระองค์รวมทั้งสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 แห่งอังกฤษ
การอภิเษกสมรสและพระราชโอรสธิดา
แก้เอเลเนอร์ก็ทรงเสกสมรสกับสมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 3 แห่งอังกฤษเมื่อวันที่ 14 มกราคม ค.ศ. 1236 พระองค์ไม่ทรงเคยเดินทางมาอังกฤษหรือพบกับพระเจ้าเฮนรีก่อนหน้าที่จะเสกสมรสที่มหาวิหารแคนเทอร์เบอรี[4] โดยมีเอ็ดมันด์ ริช อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรีเป็นผู้ประกอบพิธี อะลิอูโนทรงพระภูษาทองระยับที่รัดบั้นพระองค์แน่นและบานออกไปเป็นพลีทถึงพระบาท แขนพระภูษายาวและตกแต่งชายด้วยขนเออร์มิน[5] หลังจากที่ทรงม้าเข้ากรุงลอนดอนในวันเดียวกันในขบวนที่มีประชาชนเรียงรายเพื่อต้องรับทั้งสองพระองค์ อะลิอูโนได้รับการราชาภิเษกเป็นพระราชินีที่เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ ที่ตามด้วยงานเลี้ยงใหญ่ที่หรูหราที่เต็มไปด้วยแขกที่เป็นขุนนาง[6]
พระนางอะลิอูโนและพระเจ้าเฮนรีมีพระราชโอรสธิดาด้วยกันห้าพระองค์
- พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 1 (ค.ศ.1239-1307) อภิเษกสมรสกับอะลิอูโนแห่งคาสตีลใน ค.ศ.1254 มีพระโอรสธิดา ซึ่งรวมไปถึงทายาทของพระองค์ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 พระมเหสีคนที่สองของพระองค์คือมาร์กาเร็ตแห่งฝรั่งเศส ที่มีพระโอรสธิดากับพระองค์
- มาร์กาเร็ต (ค.ศ.1240-1275) อภิเษกสมรสกับพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 3 แห่งสก็อตแลนด์ มีพระโอรสธิดา
- เบียทริซ (ค.ศ.1242-1275) เสกสมรสกับจอห์นที่ 2 ดยุคแห่งบริททานี มีบุตร
- เอ็ดมุนด์ ครอสแบ็ค เอิร์ลแห่งแลงคาสเตอร์ที่ 1 (ค.ศ.1245-1296) เสกสมรสกับอาเวลีน เดอ ฟอร์ซใน ค.ศ.1269 ที่ตายในสี่ปีต่อมาโดยไม่มีบุตร เสกสมรสกับบล็องช์แห่งอาร์ทัวส์ใน ค.ศ.1276 มีบุตร
- แคทเธอรีน (25 พฤศจิกายน ค.ศ.1253 - 3 พฤษภาคม ค.ศ.1257)
พระนางอะลิอูโนทรงได้ชื่อว่าทรงเป็นผู้คงแก่เรียน มีความเฉลียวฉลาด และทรงมีความสามารถในการเขียนโคลงกลอน[7] รวมทั้งมีพระสิริโฉมที่งดงาม และทรงเป็นผู้นำทางด้านการแต่งกาย โดยทรงสั่งฉลองพระองค์เข้ามาจาก[8] พระองค์มักจะทรงฉลองพระองค์นอกที่ยาวและสลับสี และรัดพระองค์ด้วยเงินหรือทองที่เสียบมีดอย่างปล่อยๆ และมักจะทรงผ้าไหมทอเป็นลาย (Damask) สีแดงที่ตกแต่งเป็นดอกจิกสี่กลีบ บนพระเศียรทรงหมวกแบบกล่อง (pillbox cap) พระราชินีเอเลเนอร์ทรงเป็นผู้นำในการแต่งกายแบบใหม่ของยุคกลาง (wimple) ในอังกฤษ ที่ทำให้ “ใบหน้าแง้มออกมาเหมือนดอกไม้” จากเครื่องแต่งผม[9]
พระนางอะลิอูโนดูเหมือนจะอุทิศพระองค์ให้แก่เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดพระราชโอรสองค์โต เมื่อประชวรหนักในปี ค.ศ. 1246 พระองค์ก็ทรงอยู่เฝ้าที่แอบบีบิวลีถึงสามอาทิตย์ซึ่งเป็นเวลานานกว่าที่ทางอารามอนุญาตให้บุคคลภายนอกพำนัก[10] พระองค์ทรงเป็นผู้มีส่วนทำให้พระสวามีพระราชทานดัชชีแกสโคนีให้แก่เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด แคเธอรินพระราชธิดาองค์สุดท้องดูเหมือนจะเป็นพระโรคที่ทำให้พระกรรณหนวก เมื่อสิ้นพระชนม์เมื่อพระชนมายุ 3 พรรษาทั้งพระนางอะลิอูโนและพระเจ้าเฮนรีก็ทรงพระโทมนัสต่อการสูญเสียเป็นอันมาก[11]
อ้างอิง
แก้- ↑ Thomas B. Costain, The Magnificent Century, pp. 125-26
- ↑ Thomas B. Costain, The Magnificent Century, p.140
- ↑ Charles Cawley, Medieval Lands, Provence
- ↑ Costain, The Magnificent Century, p.127
- ↑ Costain, The Magnificent Century, p.129
- ↑ Costain, The Magnificent Century, pp. 129-30
- ↑ Costain, The Magnificent Century, p. 127
- ↑ Costain, The Magnificent Century, P.140
- ↑ Costain, The Magnificent Century, p.140
- ↑ Costain, The Magnificent Century, p. 142
- ↑ Costain, The Magnificent Century, p. 167