SlideShare a Scribd company logo
บทที่ 4
    หลัก การเชิง ออปเจ็ค
(Object Oriented Concept)

    อ.ธนิศ า เครือ ไวศยวรรณ
   คณะเทคโนโลยีส ารสนเทศ
สถาบัน เทคโนโลยีพ ระจอมเกล้า เจ้า
       คุณ ทหารลาดกระบัง
วัต ถุป ระสงค์
 แนะนำา ออปเจ็ค และคลาส

 อธิบ ายคุณ ลัก ษณะและเมธอด

 อธิบ ายการเขีย นโปรแกรมเชิง ออปเจ็ค โดยใช้
 ภาษาจาวา
 แนะนำา การเขีย นโปรแกรมโดยใช้ค ุณ ลัก ษณะเด่น
 ของโปรแกรมเชิง ออปเจ็ค
 แนะนำา   Unified Modelling Language
 อธิบ ายขัน ตอนการพัฒ นาโปรแกรม
           ้
หลัก การเชิง ออปเจ็ค
 ภาษาจาวาเป็น ภาษาคอมพิว เตอร์ท ใ ช้ห ลัก การ
                                 ี่
  เชิง ออปเจ็ค
 OOP   (Object Oriented Programming)
 OOP   เป็น ขบวนการการพัฒ นาโปรแกรมโดยการ
  จำา ลองปัญ หาว่า ประกอบไปด้ว ยออปเจ็ค ใดบ้า ง
 นิย ามทีส ำา คัญ คือ
          ่
   • ออปเจ็ค (object)
   • คลาส (class)
ออปเจ็ค
 ออปเจ็ค คือ สิง ต่า งๆทีม อ ยู่ใ นชีว ิต ประจำา วัน
                ่         ่ ี
   • ออปเจ็ค ที่เ ป็น รูป ธรรมเช่น   นัก ศึก ษา ใบลงทะเบีย น
     ปากกา และรถ
   • ออปเจ็ค ที่เ ป็น นามธรรมเช่น คะแนน รายชื่อ วิช า บัญ ชี
     เงิน ฝาก และตารางเที่ย วบิน
 ออปเจ็ค ประกอบด้ว ย
   • คุณ ลัก ษณะ (attribute) หรือ ข้อ มูล (data)
   • พฤติก รรม (behavior) หรือ เมธอด (method)
ออปเจ็ค
 คุณ ลัก ษณะ
  • ข้อ มูล ของออปเจ็ค
  • แต่ล ะออปเจ็ค อาจมีค ่า ของคุณ ลัก ษณะที่ต ่า งกัน

 เมธอด
  • สิ่ง ที่อ อปเจ็ค สามารถกระทำา ได้
  • คำา สั่ง ในการทำา งานของโปรแกรมเชิง ออปเจ็ค
  • โปรแกรมจะจัด การกับ ข้อ มูล โดยเรีย กใช้เ มธอด
ตัว อย่า งของออปเจ็ค
 นัก ศึก ษา
   • อาจจะมีค ุณ ลัก ษณะ เช่น รหัส ชื่อ และเกรดเฉลี่ย
   • อาจจะมีเ มธอด เช่น ลงทะเบีย น สอบ และเดิน

 รถยนต์
   • อาจจะมีค ุณ ลัก ษณะเช่น ยี่ห ้อ รุ่น และสี
   • อาจจะมีเ มธอด เช่น เคลื่อ นที่ หยุด และเลี้ย ว

 สุน ข
      ั
   • อาจจะมีค ุณ ลัก ษณะ เช่น   ชื่อ พัน ธ์ และสี
   • อาจจะมีเ มธอด เช่น เห่า    คลาน และกระดิก หาง
ตัว อย่า งของโปรแกรมเชิง ออปเจ็ค
 โปรแกรมระบบจัด การบัญ ชีเ งิน ฝากของธนาคาร

 ตัว อย่า งของออปเจ็ค
     •   Account
     •   Customer
     •   Transaction
     •   ATM
   Account
     • อาจมีค ุณ ลัก ษณะเช่น   เลขที่บ ัญ ชี ชื่อ เจ้า ของบัญ ชี วัน
       ที่เ ปิด บัญ ชี และยอดเงิน คงเหลือ
     • อาจมีเ มธอดเช่น ฝาก ถอน และโอนเงิน
คลาส
 เปรีย บเสมือ นพิม พ์เ ขีย วของออปเจ็ค

 ออปเจ็ค จะถูก สร้า งมาจากคลาส     บางครั้ง เรีย กว่า
  เป็น instance ของคลาส
 คลาสหนึง คลาสสามารถสร้า งออปเจ็ค ได้ห ลา
           ่
  ยออปเจ็ค อาทิเ ช่น คลาสชื่อ Student อาจสร้า ง
  ออปเจ็ค ชื่อ s1,s2 หรือ s3 ซึ่ง เป็น ออปเจ็ค ชนิด
 Student
รูป แสดงการสร้า งออปเจ็ค จาก
        คลาส Student
คุณ ลัก ษณะของออปเจ็ค
 ข้อ มูล ทีเ ก็บ อยูใ นออปเจ็ค
            ่        ่
 แบ่ง เป็น ตัว แปร   (variable) และค่า คงที่
  (constant)
   • ตัว แปรคือ คุณ ลัก ษณะที่ส ามารถเปลี่ย นค่า ได้
   • ค่า คงที่ค ือ คุณ ลัก ษณะที่ไ ม่ส ามารถเปลี่ย นค่า ได้
ตัว อย่า งคุณ ลัก ษณะของออปเจ็ค
คุณ ลัก ษณะของคลาส
 เป็น คุณ ลัก ษณะทีใ ช้ร ่ว มกัน ของทุก ออปเจ็ค
                    ่
 ทุก ออปเจ็ค จะใช้ค ุณ ลัก ษณะร่ว มกัน ทำา ให้
  ประหยัด พืน ทีใ นหน่ว ยความจำา
              ้ ่
 ตัว อย่า งเช่น คุณ ลัก ษณะทีก ำา หนดให้เ ป็น ค่า คงที่
                              ่
  ชื่อ MIN_GPA
ตัว อย่า งคุณ ลัก ษณะของคลาส
เมธอด
 วิธ ีก ารหรือ การกระทำา ทีน ย ามอยูใ นคลาสหรือ
                            ่ ิ      ่
  ออปเจ็ค เพือ ใช้ใ นการจัด การกับ คุณ ลัก ษณะขอ
             ่
  งออปเจ็ค
 เปรีย บเทีย บได้ก ับ
                 function, procedure หรือ
  subroutine ของโปรแกรมเชิง กระบวนการ
 ตัว อย่า งเช่นเมธอด    deposit()เพือ เป็น เมธอด
                                     ่
  สำา หรับ ฝากเงิน
การสื่อ สารระหว่า งออปเจ็ค
 การสือ สารระหว่า งกัน ของออปเจ็ค ทำา ได้โ ดยการ
       ่
 ผ่า นข่า วสาร (message)


                                 objB   คือ ชื่อ ออป
 เจ็ค
                                 method4    คือ ชื่อ
 เมธอด
                                 (1,2)
 คือ argument
การสื่อ สารระหว่า งออปเจ็ค
 ข่า วสารจะส่ง ผ่า นจากออปเจ็ค objA      ทีเ ป็น ผู้ส ่ง
                                            ่
  (sender) เพือ เรีย ก การทำา งานของเมธอดทีช ื่อ
               ่                                   ่
  method4 จากออปเจ็ค objB ทีเ ป็น ผู้ร ับ (receiver)
                               ่
 objB อาจส่ง ค่า (return value) บางค่า กลับ มายัง
  objA
การเขีย นโปรแกรมเชิง ออปเจ็ค
       โดยใช้ภ าษาจาวา
 การประกาศคลาส

 การประกาศคุณ ลัก ษณะ

 การประกาศเมธอด

 การประกาศและสร้า งออปเจ็ค

 การเรีย กใช้ส มาชิก ของออปเจ็ค
การประกาศคลาส
 โปรแกรมภาษาจาวาแต่ล ะโปรแกรมจะประกอบ
  ไปด้ว ยคลาสอย่า งน้อ ยหนึง คลาส โดยมีร ูป แบบ
                           ่
  การประกาศดัง นี้
             [modifier] class Classname {
                   [class member]
             }
   •   modifier คือ คีย ์เ วิร ์ด (keyword) ของภาษาจาวาที่ใ ช้
       ในการอธิบ ายระดับ การเข้า ถึง (access modifier)
   •   class คือ คีย ์เ วิร ์ด ของภาษาจาวาเพื่อ ระบุว ่า เป็น การ
       ประกาศคลาส
   •   Classname คือ ชื่อ คลาส
   •   class member คือ เมธอดหรือ คุณ ลัก ษณะ

 ตัว อย่า ง
             public class Student {
การประกาศคุณ ลัก ษณะ
 คุณ ลัก ษณะของออปเจ็ค คือ ตัว แปรหรือ ค่า คงทีซ ึ่ง
                                                ่
  ประกาศภายในออปเจ็ค โดยมีร ูป แบบการประกาศ
  ดัง นี้
             [modifier] dataType attributeName;
   •   modifier คือ คีย ์เ วิร ์ด ของภาษาจาวาที่อ ธิบ ายคุณ สมบัต ิ
       ต่า งๆของตัว แปรหรือ ค่า คงที่
   •   dataType คือ ชนิด ข้อ มูล ซึ่ง อาจเป็น ชนิด ข้อ มูล พื้น ฐาน
       หรือ ชนิด คลาส
   •   attributeName คือ ชื่อ ของคุณ ลัก ษณะ

 ตัว อย่า ง
              public class   Student {
                    public   String id;
                    public   String name;
                    public   double gpa;
              }
การประกาศเมธอด
 ภาษาจาวากำา หนดรูป แบบของการประกาศเมธอด
 ทีอ ยูใ นคลาสไว้ด ัง นี้
   ่ ่
         [modifier] return_type methodName([arguments]) {
               [method_body]
         }
  •   modifier คือ คีย ์เ วิร ์ด ของภาษาจาวาที่ใ ช้อ ธิบ ายระดับ
      การเข้า ถึง
  •   return_type คือ ชนิด ข้อ มูล ของค่า ที่จ ะมีก ารส่ง กลับ
  •   methodName คือ ชื่อ ของเมธอด
  •   arguments คือ ตัว แปรที่ใ ช้ใ นการรับ ข้อ มูล ที่อ อปเจ็ค ส่ง
      มาให้
  •   method_body   คือ คำา สั่ง ต่า งๆของภาษาจาวาที่อ ยู่ใ นเมธอด
ตัว อย่า งโปรแกรม
public class Student {
 public class Student {
        public String id;
         public String id;
        public String name;
         public String name;
        public double gpa;
         public double gpa;
        public void setID(String ID) {
         public void setID(String ID) {
                id = ID;
                 id = ID;
        }}
        public void setName(String n) {
         public void setName(String n) {
                name = n;
                 name = n;
        }}
        public void setGPA(double GPA) {
         public void setGPA(double GPA) {
                gpa = GPA;
                 gpa = GPA;
        }}
        public void showDetails() {
         public void showDetails() {
                System.out.println("ID: "+id);
                 System.out.println("ID: "+id);
                System.out.println("Name: "+name);
                 System.out.println("Name: "+name);
                System.out.println("GPA: "+gpa);
                 System.out.println("GPA: "+gpa);
        }}
}}
เมธอดที่ช อ
                      ื่         main()

 โปรแกรมจาวาประยุก ต์   (Java Application) จะ
 เริ่ม ต้น การทำา งานในคลาสทีม เ มธอดทีช ื่อ main
                             ่ ี       ่
 โดยมีร ูป แบบของเมธอดดัง นี้
      public static void main(String args[]) {
         [method_body]
     }
การประกาศออปเจ็ค
 ออปเจ็ค ทุก ออปเจ็ค ในโปรแกรมภาษาจาวาจะ
  ต้อ งมีค ำา สัง ประกาศเพื่อ ระบุว ่า ออปเจ็ค นัน เป็น
                ่                                ้
  ออปเจ็ค ของคลาสใด โดยมีร ูป แบบการประกาศ
  ดัง นี้
             [modifier] ClassName objectName;
   •   modifier คือ คีย ์เ วิร ์ด ที่อ ธิบ ายคุณ สมบัต ิต ่า งๆของออป
       เจ็ค
   •   ClassName คือ ชื่อ ของคลาสสำา หรับ ออปเจ็ค นั้น
   •   objectName คือ ชื่อ ของออปเจ็ค

 ตัว อย่า ง
              Student    s1;
การสร้า งออปเจ็ค
 คำา สั่ง ทีใ ช้ใ นการสร้า งออปเจ็ค จะมีร ูป แบบดัง นี้
             ่
             objectName = new ClassName([arguments]);
   •   objectName คือ ชื่อ ของออปเจ็ค
   •   new คือ คีย ์เ วิร ์ด ของภาษาจาวาเพื่อ ใช้ใ นการสร้า งออป
       เจ็ค
   •           คือ ชื่อ ของคลาส
       ClassName
   •           คือ ค่า ที่ต ้อ งการส่ง ผ่า นในการเรีย ก
       arguments
       Constructor
 ตัว อย่า ง
              s1 = new Student();
การประกาศและสร้า งออปเจ็ค
 คำา สั่ง ในการประกาศและสร้า งออปเจ็ค สามารถที่
  จะรวมเป็น คำา สัง เดีย วกัน โดยมีร ูป แบบคำา สั่ง ดัง นี้
                  ่
           [modifier] ClassName objectName =
                               new ClassName([arguments]);

 ตัว อย่า ง
           Student s1 = new Student();
การเรีย กใช้ส มาชิก ของออปเจ็ค
 การเรีย กใช้ค ุณ ลัก ษณะของออปเจ็ค มีร ูป แบบดัง นี้
             objectName.attributeName;
 การเรีย กใช้เ มธอดของออปเจ็ค มีร ูป แบบดัง นี้
             objectName.methodName([arguments]);
   •   objectName คือ ชื่อ ของออปเจ็ค ที่ส ร้า งขึ้น
   •   methodName คือ ชื่อ ของเมธอดของออปเจ็ค นั้น
   •   arguments คือ ค่า ที่ต ้อ งการส่ง ผ่า นไปให้ก ับ เมธอดขอ
       งออปเจ็ค นั้น
 ตัว อย่า ง
             s1.setName("Thana");
ตัว อย่า งโปรแกรม
public class Sample {
 public class Sample {
        public static void main(String args[]) {
         public static void main(String args[]) {
                Student s1 = new Student();
                 Student s1 = new Student();
                Student s2 = new Student();
                 Student s2 = new Student();
                Student s3 = new Student();
                 Student s3 = new Student();
                s1.setID("1234");
                 s1.setID("1234");
                s1.setName("Thana");
                 s1.setName("Thana");
                s1.setGPA(3.25);
                 s1.setGPA(3.25);
                s1.showDetails();
                 s1.showDetails();
                s2.setID("1122");
                 s2.setID("1122");
                s2.setName("Somchai");
                 s2.setName("Somchai");
                s2.setGPA(2.90);
                 s2.setGPA(2.90);
                s2.showDetails();
                 s2.showDetails();
                s3.setID("2211");
                 s3.setID("2211");
                s3.setName("Somsri");
                 s3.setName("Somsri");
                s3.setGPA(3.00);
                 s3.setGPA(3.00);
                s3.showDetails();
                 s3.showDetails();
        }}
}}
คุณ ลัก ษณะเด่น ของโปรแกรมเชิง
             ออปเจ็ค
 การห่อ หุม
           ้   (Encapsulation)
 การสืบ ทอด    (Inheritance)
 การมีไ ด้ห ลายรูป แบบ   (Polymorphism)
การห่อ หุ้ม
 หมายถึง การจะเรีย กใช้ค ุณ ลัก ษณะของออปเจ็ค
 จะทำา ได้โ ดยการเรีย กผ่า นเมธอดเท่า นัน
                                        ้
 หลัก การของการห่อ หุม คือ การกำา หนดให้
                      ้
 คุณ ลัก ษณะของออปเจ็ค มีค ุณ สมบัต ิเ ป็น private
 และกำา หนดให้เ มธอดมีค ุณ สมบัต ิเ ป็น public
ข้อ ดีข องการห่อ หุ้ม
 การซ่อ นเร้น ข้อ มูล   (Information Hiding)
   • ทำา ให้อ อปเจ็ค สามารถติด ต่อ กับ ออปเจ็ค ภายนอกผ่า น
    เมธอดที่เ ป็น ส่ว นของ interface เท่า นั้น
 ความเป็น โมดูล    (Modularity)
   • การพัฒ นาโปรแกรมเชิง ออปเจ็ค จะสามารถกำา หนดให้
    ออปเจ็ค แต่ล ะออปเจ็ค มีค วามเป็น อิส ระต่อ กัน
ตัว อย่า งโปรแกรม
public class Student {
 public class Student {
        private String id;
         private String id;
        private String name;
         private String name;
        private double gpa;
         private double gpa;
        public void setID(String ID) {
         public void setID(String ID) {
                id = ID;
                 id = ID;
        }}
        public void setName(String n) {
         public void setName(String n) {
                name = n;
                 name = n;
        }}
        public void setGPA(double GPA) {
         public void setGPA(double GPA) {
                gpa = GPA;
                 gpa = GPA;
        }}
        public void showDetails() {
         public void showDetails() {
                System.out.println("ID: "+id);
                 System.out.println("ID: "+id);
                System.out.println("Name: "+name);
                 System.out.println("Name: "+name);
                System.out.println("GPA: "+gpa);
                 System.out.println("GPA: "+gpa);
        }}
}}
การสืบ ทอด
 หมายถึง การนิย ามคลาสใหม่จ ากรูป แบบของ
  คลาสทีม อ ยูแ ล้ว โดยคลาสใหม่ส ามารถที่จ ะนำา
          ่ ี ่
  คุณ ลัก ษณะและเมธอดของคลาสเดิม มาใช้ไ ด้
 โดยในภาษาจาวาจะใช้ค ีย เ วิร ์ด extends
                         ์                  เพือ ระบุ
                                               ่
  การสืบ ทอด
 ตัว อย่า ง
ตัว อย่า งโปรแกรม
public class PartTimeStudent extends Student { }
 public class PartTimeStudent extends Student { }
public class FullTimeStudent extends Student { }
 public class FullTimeStudent extends Student { }
public class GradStudent extends Student {
 public class GradStudent extends Student {
        private String thesisTitle;
         private String thesisTitle;
        private String supervisor;
         private String supervisor;
        public void setThesisTitle(String t) {
         public void setThesisTitle(String t) {
                thesisTitle = t;
                 thesisTitle = t;
        }}
        public void setSupervisor(String s) {
         public void setSupervisor(String s) {
                supervisor = s;
                 supervisor = s;
        }}
}}
public class PhDStudent extends GradStudent {
 public class PhDStudent extends GradStudent {
        public boolean passQualify;
         public boolean passQualify;
        public boolean isPassQualify() {
         public boolean isPassQualify() {
                return passQualify;
                 return passQualify;
        }}
}}
การมีไ ด้ห ลายรูป แบบ
 หมายถึง การทีส ามารถตอบสนองต่อ ข่า วสาร
               ่
 (เมธอด) เดีย วกัน ด้ว ยวิธ ีก ารทีต ่า งกัน และ
                                   ่
 สามารถกำา หนดออปเจ็ค ได้ห ลายรูป แบบ
 Overridden    method
 Dynamic   Binding
ตัว อย่า ง
ตัว อย่า งโปรแกรม
class Ball {
 class Ball {
        public void throwBall() { }
         public void throwBall() { }
}}
class SoccerBall extends Ball {
 class SoccerBall extends Ball {
    public void throwBall() {
     public void throwBall() {
        System.out.println("Throwing soccerball");
         System.out.println("Throwing soccerball");
    }}
}}
class TennisBall extends Ball {
 class TennisBall extends Ball {
    public void throwBall() {
     public void throwBall() {
        System.out.println("Throwing tennisball");
         System.out.println("Throwing tennisball");
    }}
}}
public class TestBall {
 public class TestBall {
    public static void main(String args[]) {
     public static void main(String args[]) {
        Ball b1 = new Ball();
         Ball b1 = new Ball();
        SoccerBall b2 = new SoccerBall();
         SoccerBall b2 = new SoccerBall();
        Ball b3 = new SoccerBall();
         Ball b3 = new SoccerBall();
    }}
}}
Unified Modeling Language
            (UML)
 เป็น ภาษาทีส ามารถนำา รูป กราฟฟิก มาจำา ลอง
             ่
 โปรแกรมเชิง ออปเจ็ค ได้
 ประกอบด้ว ยสองส่ว นคือ
  • ไดอะแกรมของคลาส (Class Diagram)
  • ไดอะแกรมของออปเจ็ค (Object Diagram)
ไดอะแกรมของคลาส
 เป็น สัญ ลัก ษณ์ท ใ ช้แ สดงคลาส
                    ี่
 ประกอบด้ว ยส่ว นต่า งๆสามส่ว นคือ
   • ชื่อ ของคลาส
   • คุณ ลัก ษณะภายในคลาส
   • เมธอดภายในคลาส
ไดอะแกรมของออปเจ็ค
 ประกอบไปด้ว ยส่ว นต่า งๆสองส่ว นคือ
  • ส่ว นที่ร ะบุช ื่อ ของออปเจ็ค
  • ส่ว นที่ร ะบุค ่า ของคุณ ลัก ษณะภายในออปเจ็ค
ขั้น ตอนการพัฒ นาโปรแกรม
 ขั้น ตอนการวิเ คราะห์   (Analysis)
 ขั้น ตอนการออกแบบ       (Design)
 ขั้น ตอนการเขีย นโปรแกรม     (Programming)
 ขั้น ตอนการทดสอบ     (Testing)
 ขั้น ตอนการทำา งาน   (Operation)
รูป แสดงขั้น ตอนการพัฒ นา
        โปรแกรม
สรุป เนื้อ หาของบท
 โปรแกรมเชิง ออปเจ็ค จะมีค ำา นิย ามทีส ำา คัญ สองคำา
                                       ่
  คือ ออปเจ็ค และคลาส
 ออปเจ็ค คือ สิง ต่า งๆทีม อ ยู่ใ นชีว ิต ประจำา วัน จะ
                ่         ่ ี
  ประกอบไปด้ว ยคุณ ลัก ษณะและเมธอด
 คลาสเปรีย บเสมือ นพิม พ์เ ขีย วของออปเจ็คออป
  เจ็ค ทีถ ก สร้า งมาจากคลาส ออปเจ็ค หลายออปเจ็ค
         ่ ู
  สามารถถูก สร้า งจากคลาสหนึง คลาสได้
                               ่
 คุณ ลัก ษณะของออปเจ็ค คือ ข้อ มูล ทีเ ก็บ อยูใ นออป
                                      ่        ่
  เจ็ค ซึ่ง จะแบ่ง ออกเป็น ตัว แปรและค่า คงที่
 คุณ ลัก ษณะของคลาสเป็น คุณ ลัก ษณะทีใ ช้ร ่ว มกัน
                                      ่
  ของทุก ออปเจ็ค
สรุป เนื้อ หาของบท
 ภาษาจาวามีน ย ามในการเขีย นโปรแกรมเชิง ออป
              ิ
 เจ็ค เพือ ประกาศคลาส คุณ ลัก ษณะ เมธอด และ
         ่
 ออปเจ็ค
 โปรแกรมเชิง ออปเจ็ค จะมีค ุณ ลัก ษณะเด่น อยู่ส าม
  ประการคือ การห่อ หุ้ม การสืบ ทอด และการมีไ ด้
  หลายรูป แบบ
 การห่อ หุม คือ การทีใ ห้ค ุณ ลัก ษณะถูก ห่อ หุม อยู่
           ้          ่                         ้
  ภายในเมธอด โดยกำา หนดให้ค ุณ ลัก ษณะมี
  access modifier เป็น private และกำา หนดให้
  เมธอดมี access modifier เป็น public
 ข้อ ดีข องการห่อ หุม คือ การซ่อ นเร้น ข้อ มูล และ
                     ้
 ความเป็น โมดูล
สรุป เนื้อ หาของบท
 การมีไ ด้ห ลายรูป แบบคือ การทีก ำา หนดให้ม ก าร
                                ่            ี
 ตอบสนองต่อ เมธอดเดีย วกัน ด้ว ยวิธ ีก ารทีต ่า งกัน
                                           ่
 และสามารถกำา หนดออปเจ็ค ได้ห ลายรูป แบบ
 Unified    Modeling Language (UML) เป็น ภาษา
 ทีใ ช้ร ูป กราฟฟิก เพื่อ จำา ลองระบบซอฟต์แ วร์ ในที่
   ่
 นีไ ด้แ นะนำา สัญ ลัก ษณ์ข อง UML ทีส ำา คัญ สอง
     ้                                ่
 อย่า งคือ ไดอะแกรมของคลาสและไดอะแกรมขอ
 งออปเจ็ค
 วัฎ จัก รการพัฒ นาโปรแกรมจะประกอบไปด้ว ยขั้น
 ตอนต่า งๆ 5 ขั้น ตอนคือ ขั้น ตอนการวิเ คราะห์ ขั้น
 ตอนการออกแบบ ขั้น ตอนการเขีย นโปรแกรม ขัน        ้
 ตอนการทดสอบ และ ขั้น ตอนการทำา งาน
แบบฝึก หัด
 แบบฝึก หัด ที่   1 การออกแบบคลาส
   • เขีย นข้อ กำา หนดอธิบ ายระบบโปรแกรมสำา หรับ การตัด
     เกรดของรายวิช าหนึ่ง รายวิช า
   • เขีย นไดอะแกรมของคลาสเพื่อ อธิบ ายคุณ ลัก ษณะและ
     เมธอดทั้ง หมดที่ม ีอ ยู่ใ นคลาส

More Related Content

PDF
ข้อสอบปลายภาค50ข้อexcel 07 2558
PDF
บทที่ 5 การแปลง er diagram ให้เป็น table
PDF
บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน ม.ต้น
PDF
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 พื้นฐานการสร้างเว็บไซต์
PPT
9 รูปแบบการวิจัย
PDF
ข้อสอบปลายภาค50ข้อ โปรแกรมword
PDF
เฉลยข้อสอบเพาเวอร์พ้อยท์
PDF
ตัวอย่างใบสมัคร
ข้อสอบปลายภาค50ข้อexcel 07 2558
บทที่ 5 การแปลง er diagram ให้เป็น table
บทที่ 4 ผลการดำเนินงาน ม.ต้น
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 พื้นฐานการสร้างเว็บไซต์
9 รูปแบบการวิจัย
ข้อสอบปลายภาค50ข้อ โปรแกรมword
เฉลยข้อสอบเพาเวอร์พ้อยท์
ตัวอย่างใบสมัคร

What's hot (20)

PDF
8 บทที่ 3 อุปกรณ์และวิธีดำเนินการ
PPTX
Java: Manipulação de Arquivos
PDF
แบบทดสอบ Powerpoint
PDF
Java-Chapter 12 Classes and Objects
PDF
โครงงานพัฒนาเกม 8
PDF
ข้อสอบ พรบคอมพิวเตอ50มี 20 ข้อ
PDF
แผนเรียนรู้วิชาพิมพ์ดีดไทยด้วยคอม 1
PDF
แนวคิดแผนภาพกระแสข้อมูล
PPTX
Structure of java program diff c- cpp and java
PDF
ใบงานที่ 10 การสร้างแผนภูมิ
PDF
Lecture7 การแปลงโมเดลแบบ E-R เป็นรูปแบบโมเดลเชิงสัมพันธ์
PPT
ใบงานที่21กรดนิวคลีอิก
PDF
ข้อสอบปฏิบัติ Microsoft Word
PDF
Kingdom monera
PDF
แนะนำการเขียนโปรแกรมภาษาแอสเซมลีเบื้องต้น
PDF
Dataset 16 แฟ้ม ของ ECLAIM
PDF
2.2 ใบงานแป้นพิมพ์
PDF
ขั้นตอนการสมัครและโหลดงานลง Slideshare
PPT
การเข้าหัว Rj 45
PPTX
Introduction to OOP in Python
8 บทที่ 3 อุปกรณ์และวิธีดำเนินการ
Java: Manipulação de Arquivos
แบบทดสอบ Powerpoint
Java-Chapter 12 Classes and Objects
โครงงานพัฒนาเกม 8
ข้อสอบ พรบคอมพิวเตอ50มี 20 ข้อ
แผนเรียนรู้วิชาพิมพ์ดีดไทยด้วยคอม 1
แนวคิดแผนภาพกระแสข้อมูล
Structure of java program diff c- cpp and java
ใบงานที่ 10 การสร้างแผนภูมิ
Lecture7 การแปลงโมเดลแบบ E-R เป็นรูปแบบโมเดลเชิงสัมพันธ์
ใบงานที่21กรดนิวคลีอิก
ข้อสอบปฏิบัติ Microsoft Word
Kingdom monera
แนะนำการเขียนโปรแกรมภาษาแอสเซมลีเบื้องต้น
Dataset 16 แฟ้ม ของ ECLAIM
2.2 ใบงานแป้นพิมพ์
ขั้นตอนการสมัครและโหลดงานลง Slideshare
การเข้าหัว Rj 45
Introduction to OOP in Python
Ad

Viewers also liked (20)

PDF
Java Programming: การเขียนโปรแกรมภาษาจาวาเชิงอ็อบเจกต์
PDF
พื้นฐานโปรแกรมภาษาจาวา
PDF
Java Programming: โครงสร้างควบคุม
PDF
ความรู้เบื้องต้นภาษาจาวา
PDF
Java Programming: การสร้างส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้ (Java GUI)
PDF
Java Programming: หลักการเชิงอ็อบเจกต์
PDF
Java Programming: อะเรย์และคอลเล็กชั่น
PDF
บทที่ 3 พื้นฐานภาษา Java
PDF
Planning on Mobile Strategy
DOCX
การพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการศึกษา
PDF
ซอฟต์แวร์ทางการศึกษา
PPTX
เมธอด กลุ่ม3
PDF
Java Programming: คลาสอินพุตและเอาต์พุต
PDF
Java Programming: การจัดการกับเหตุการณ์กราฟิก
PDF
Java Programming: การจัดการกับข้อผิดพลาด
PDF
คลาสและการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุเบื้องต้น
PDF
แบบทดสอบ รายวิชา 0503101 เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษากับการศึกษาร่วมสมัย
PDF
ข้อสอบวิชาการศึกษา ชุดที่ 1-5 (150 ข้อ)
PDF
การพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการศึกษาตามรูปแบบ ADDIE บทที่ 5 การพัฒนา(Development)มหาว...
Java Programming: การเขียนโปรแกรมภาษาจาวาเชิงอ็อบเจกต์
พื้นฐานโปรแกรมภาษาจาวา
Java Programming: โครงสร้างควบคุม
ความรู้เบื้องต้นภาษาจาวา
Java Programming: การสร้างส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้ (Java GUI)
Java Programming: หลักการเชิงอ็อบเจกต์
Java Programming: อะเรย์และคอลเล็กชั่น
บทที่ 3 พื้นฐานภาษา Java
Planning on Mobile Strategy
การพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการศึกษา
ซอฟต์แวร์ทางการศึกษา
เมธอด กลุ่ม3
Java Programming: คลาสอินพุตและเอาต์พุต
Java Programming: การจัดการกับเหตุการณ์กราฟิก
Java Programming: การจัดการกับข้อผิดพลาด
คลาสและการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุเบื้องต้น
แบบทดสอบ รายวิชา 0503101 เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษากับการศึกษาร่วมสมัย
ข้อสอบวิชาการศึกษา ชุดที่ 1-5 (150 ข้อ)
การพัฒนาซอฟต์แวร์ทางการศึกษาตามรูปแบบ ADDIE บทที่ 5 การพัฒนา(Development)มหาว...
Ad

Similar to Java Programming [4/12] : Object Oriented Concept (20)

PPTX
คลาสและการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุเบื้องต้น
PPT
Java Programming [8/12] : Arrays and Collection
PPT
พื้นฐานการเขียนโปรแกรมเชิงอ็อบเจ็กต์พร้อมตัวอย่าง
PDF
พื้นฐานภาษาจาวา
PPT
พื้นฐานภาษาจาวา
PPT
งาน
PDF
บทที่ 2 พื้นฐานภาษาจาวา
PDF
Pbl2 docx
PDF
Pbl2 docx
PDF
Pbl2 นะแนนxปิ้น
PPT
Java intro
DOC
Chapter3
PDF
ภาษา C#
PPT
PDF
Java 7&12 6 2
PDF
บทที่ 5 คลาส
PDF
5.Methods cs
PPT
Java Programming [2/12] : Overview of Java Programming Language
คลาสและการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุเบื้องต้น
Java Programming [8/12] : Arrays and Collection
พื้นฐานการเขียนโปรแกรมเชิงอ็อบเจ็กต์พร้อมตัวอย่าง
พื้นฐานภาษาจาวา
พื้นฐานภาษาจาวา
งาน
บทที่ 2 พื้นฐานภาษาจาวา
Pbl2 docx
Pbl2 docx
Pbl2 นะแนนxปิ้น
Java intro
Chapter3
ภาษา C#
Java 7&12 6 2
บทที่ 5 คลาส
5.Methods cs
Java Programming [2/12] : Overview of Java Programming Language

More from IMC Institute (20)

PDF
นิตยสาร Digital Trends ฉบับที่ 14
PDF
Digital trends Vol 4 No. 13 Sep-Dec 2019
PDF
บทความ The evolution of AI
PDF
IT Trends eMagazine Vol 4. No.12
PDF
เพราะเหตุใด Digitization ไม่ตอบโจทย์ Digital Transformation
PDF
IT Trends 2019: Putting Digital Transformation to Work
PDF
มูลค่าตลาดดิจิทัลไทย 3 อุตสาหกรรม
PDF
IT Trends eMagazine Vol 4. No.11
PDF
แนวทางการทำ Digital transformation
PDF
บทความ The New Silicon Valley
PDF
นิตยสาร IT Trends ของ IMC Institute ฉบับที่ 10
PDF
แนวทางการทำ Digital transformation
PDF
The Power of Big Data for a new economy (Sample)
PDF
บทความ Robotics แนวโน้มใหม่สู่บริการเฉพาะทาง
PDF
IT Trends eMagazine Vol 3. No.9
PDF
Thailand software & software market survey 2016
PPTX
Developing Business Blockchain Applications on Hyperledger
PDF
Digital transformation @thanachart.org
PDF
บทความ Big Data จากบล็อก thanachart.org
PDF
กลยุทธ์ 5 ด้านกับการทำ Digital Transformation
นิตยสาร Digital Trends ฉบับที่ 14
Digital trends Vol 4 No. 13 Sep-Dec 2019
บทความ The evolution of AI
IT Trends eMagazine Vol 4. No.12
เพราะเหตุใด Digitization ไม่ตอบโจทย์ Digital Transformation
IT Trends 2019: Putting Digital Transformation to Work
มูลค่าตลาดดิจิทัลไทย 3 อุตสาหกรรม
IT Trends eMagazine Vol 4. No.11
แนวทางการทำ Digital transformation
บทความ The New Silicon Valley
นิตยสาร IT Trends ของ IMC Institute ฉบับที่ 10
แนวทางการทำ Digital transformation
The Power of Big Data for a new economy (Sample)
บทความ Robotics แนวโน้มใหม่สู่บริการเฉพาะทาง
IT Trends eMagazine Vol 3. No.9
Thailand software & software market survey 2016
Developing Business Blockchain Applications on Hyperledger
Digital transformation @thanachart.org
บทความ Big Data จากบล็อก thanachart.org
กลยุทธ์ 5 ด้านกับการทำ Digital Transformation

Java Programming [4/12] : Object Oriented Concept

  • 1. บทที่ 4 หลัก การเชิง ออปเจ็ค (Object Oriented Concept) อ.ธนิศ า เครือ ไวศยวรรณ คณะเทคโนโลยีส ารสนเทศ สถาบัน เทคโนโลยีพ ระจอมเกล้า เจ้า คุณ ทหารลาดกระบัง
  • 2. วัต ถุป ระสงค์  แนะนำา ออปเจ็ค และคลาส  อธิบ ายคุณ ลัก ษณะและเมธอด  อธิบ ายการเขีย นโปรแกรมเชิง ออปเจ็ค โดยใช้ ภาษาจาวา  แนะนำา การเขีย นโปรแกรมโดยใช้ค ุณ ลัก ษณะเด่น ของโปรแกรมเชิง ออปเจ็ค  แนะนำา Unified Modelling Language  อธิบ ายขัน ตอนการพัฒ นาโปรแกรม ้
  • 3. หลัก การเชิง ออปเจ็ค  ภาษาจาวาเป็น ภาษาคอมพิว เตอร์ท ใ ช้ห ลัก การ ี่ เชิง ออปเจ็ค  OOP (Object Oriented Programming)  OOP เป็น ขบวนการการพัฒ นาโปรแกรมโดยการ จำา ลองปัญ หาว่า ประกอบไปด้ว ยออปเจ็ค ใดบ้า ง  นิย ามทีส ำา คัญ คือ ่ • ออปเจ็ค (object) • คลาส (class)
  • 4. ออปเจ็ค  ออปเจ็ค คือ สิง ต่า งๆทีม อ ยู่ใ นชีว ิต ประจำา วัน ่ ่ ี • ออปเจ็ค ที่เ ป็น รูป ธรรมเช่น นัก ศึก ษา ใบลงทะเบีย น ปากกา และรถ • ออปเจ็ค ที่เ ป็น นามธรรมเช่น คะแนน รายชื่อ วิช า บัญ ชี เงิน ฝาก และตารางเที่ย วบิน  ออปเจ็ค ประกอบด้ว ย • คุณ ลัก ษณะ (attribute) หรือ ข้อ มูล (data) • พฤติก รรม (behavior) หรือ เมธอด (method)
  • 5. ออปเจ็ค  คุณ ลัก ษณะ • ข้อ มูล ของออปเจ็ค • แต่ล ะออปเจ็ค อาจมีค ่า ของคุณ ลัก ษณะที่ต ่า งกัน  เมธอด • สิ่ง ที่อ อปเจ็ค สามารถกระทำา ได้ • คำา สั่ง ในการทำา งานของโปรแกรมเชิง ออปเจ็ค • โปรแกรมจะจัด การกับ ข้อ มูล โดยเรีย กใช้เ มธอด
  • 6. ตัว อย่า งของออปเจ็ค  นัก ศึก ษา • อาจจะมีค ุณ ลัก ษณะ เช่น รหัส ชื่อ และเกรดเฉลี่ย • อาจจะมีเ มธอด เช่น ลงทะเบีย น สอบ และเดิน  รถยนต์ • อาจจะมีค ุณ ลัก ษณะเช่น ยี่ห ้อ รุ่น และสี • อาจจะมีเ มธอด เช่น เคลื่อ นที่ หยุด และเลี้ย ว  สุน ข ั • อาจจะมีค ุณ ลัก ษณะ เช่น ชื่อ พัน ธ์ และสี • อาจจะมีเ มธอด เช่น เห่า คลาน และกระดิก หาง
  • 7. ตัว อย่า งของโปรแกรมเชิง ออปเจ็ค  โปรแกรมระบบจัด การบัญ ชีเ งิน ฝากของธนาคาร  ตัว อย่า งของออปเจ็ค • Account • Customer • Transaction • ATM  Account • อาจมีค ุณ ลัก ษณะเช่น เลขที่บ ัญ ชี ชื่อ เจ้า ของบัญ ชี วัน ที่เ ปิด บัญ ชี และยอดเงิน คงเหลือ • อาจมีเ มธอดเช่น ฝาก ถอน และโอนเงิน
  • 8. คลาส  เปรีย บเสมือ นพิม พ์เ ขีย วของออปเจ็ค  ออปเจ็ค จะถูก สร้า งมาจากคลาส บางครั้ง เรีย กว่า เป็น instance ของคลาส  คลาสหนึง คลาสสามารถสร้า งออปเจ็ค ได้ห ลา ่ ยออปเจ็ค อาทิเ ช่น คลาสชื่อ Student อาจสร้า ง ออปเจ็ค ชื่อ s1,s2 หรือ s3 ซึ่ง เป็น ออปเจ็ค ชนิด Student
  • 10. คุณ ลัก ษณะของออปเจ็ค  ข้อ มูล ทีเ ก็บ อยูใ นออปเจ็ค ่ ่  แบ่ง เป็น ตัว แปร (variable) และค่า คงที่ (constant) • ตัว แปรคือ คุณ ลัก ษณะที่ส ามารถเปลี่ย นค่า ได้ • ค่า คงที่ค ือ คุณ ลัก ษณะที่ไ ม่ส ามารถเปลี่ย นค่า ได้
  • 11. ตัว อย่า งคุณ ลัก ษณะของออปเจ็ค
  • 12. คุณ ลัก ษณะของคลาส  เป็น คุณ ลัก ษณะทีใ ช้ร ่ว มกัน ของทุก ออปเจ็ค ่  ทุก ออปเจ็ค จะใช้ค ุณ ลัก ษณะร่ว มกัน ทำา ให้ ประหยัด พืน ทีใ นหน่ว ยความจำา ้ ่  ตัว อย่า งเช่น คุณ ลัก ษณะทีก ำา หนดให้เ ป็น ค่า คงที่ ่ ชื่อ MIN_GPA
  • 13. ตัว อย่า งคุณ ลัก ษณะของคลาส
  • 14. เมธอด  วิธ ีก ารหรือ การกระทำา ทีน ย ามอยูใ นคลาสหรือ ่ ิ ่ ออปเจ็ค เพือ ใช้ใ นการจัด การกับ คุณ ลัก ษณะขอ ่ งออปเจ็ค  เปรีย บเทีย บได้ก ับ function, procedure หรือ subroutine ของโปรแกรมเชิง กระบวนการ  ตัว อย่า งเช่นเมธอด deposit()เพือ เป็น เมธอด ่ สำา หรับ ฝากเงิน
  • 15. การสื่อ สารระหว่า งออปเจ็ค  การสือ สารระหว่า งกัน ของออปเจ็ค ทำา ได้โ ดยการ ่ ผ่า นข่า วสาร (message) objB คือ ชื่อ ออป เจ็ค method4 คือ ชื่อ เมธอด (1,2) คือ argument
  • 16. การสื่อ สารระหว่า งออปเจ็ค  ข่า วสารจะส่ง ผ่า นจากออปเจ็ค objA ทีเ ป็น ผู้ส ่ง ่ (sender) เพือ เรีย ก การทำา งานของเมธอดทีช ื่อ ่ ่ method4 จากออปเจ็ค objB ทีเ ป็น ผู้ร ับ (receiver) ่  objB อาจส่ง ค่า (return value) บางค่า กลับ มายัง objA
  • 17. การเขีย นโปรแกรมเชิง ออปเจ็ค โดยใช้ภ าษาจาวา  การประกาศคลาส  การประกาศคุณ ลัก ษณะ  การประกาศเมธอด  การประกาศและสร้า งออปเจ็ค  การเรีย กใช้ส มาชิก ของออปเจ็ค
  • 18. การประกาศคลาส  โปรแกรมภาษาจาวาแต่ล ะโปรแกรมจะประกอบ ไปด้ว ยคลาสอย่า งน้อ ยหนึง คลาส โดยมีร ูป แบบ ่ การประกาศดัง นี้ [modifier] class Classname { [class member] } • modifier คือ คีย ์เ วิร ์ด (keyword) ของภาษาจาวาที่ใ ช้ ในการอธิบ ายระดับ การเข้า ถึง (access modifier) • class คือ คีย ์เ วิร ์ด ของภาษาจาวาเพื่อ ระบุว ่า เป็น การ ประกาศคลาส • Classname คือ ชื่อ คลาส • class member คือ เมธอดหรือ คุณ ลัก ษณะ  ตัว อย่า ง public class Student {
  • 19. การประกาศคุณ ลัก ษณะ  คุณ ลัก ษณะของออปเจ็ค คือ ตัว แปรหรือ ค่า คงทีซ ึ่ง ่ ประกาศภายในออปเจ็ค โดยมีร ูป แบบการประกาศ ดัง นี้ [modifier] dataType attributeName; • modifier คือ คีย ์เ วิร ์ด ของภาษาจาวาที่อ ธิบ ายคุณ สมบัต ิ ต่า งๆของตัว แปรหรือ ค่า คงที่ • dataType คือ ชนิด ข้อ มูล ซึ่ง อาจเป็น ชนิด ข้อ มูล พื้น ฐาน หรือ ชนิด คลาส • attributeName คือ ชื่อ ของคุณ ลัก ษณะ  ตัว อย่า ง public class Student { public String id; public String name; public double gpa; }
  • 20. การประกาศเมธอด  ภาษาจาวากำา หนดรูป แบบของการประกาศเมธอด ทีอ ยูใ นคลาสไว้ด ัง นี้ ่ ่ [modifier] return_type methodName([arguments]) { [method_body] } • modifier คือ คีย ์เ วิร ์ด ของภาษาจาวาที่ใ ช้อ ธิบ ายระดับ การเข้า ถึง • return_type คือ ชนิด ข้อ มูล ของค่า ที่จ ะมีก ารส่ง กลับ • methodName คือ ชื่อ ของเมธอด • arguments คือ ตัว แปรที่ใ ช้ใ นการรับ ข้อ มูล ที่อ อปเจ็ค ส่ง มาให้ • method_body คือ คำา สั่ง ต่า งๆของภาษาจาวาที่อ ยู่ใ นเมธอด
  • 21. ตัว อย่า งโปรแกรม public class Student { public class Student { public String id; public String id; public String name; public String name; public double gpa; public double gpa; public void setID(String ID) { public void setID(String ID) { id = ID; id = ID; }} public void setName(String n) { public void setName(String n) { name = n; name = n; }} public void setGPA(double GPA) { public void setGPA(double GPA) { gpa = GPA; gpa = GPA; }} public void showDetails() { public void showDetails() { System.out.println("ID: "+id); System.out.println("ID: "+id); System.out.println("Name: "+name); System.out.println("Name: "+name); System.out.println("GPA: "+gpa); System.out.println("GPA: "+gpa); }} }}
  • 22. เมธอดที่ช อ ื่ main()  โปรแกรมจาวาประยุก ต์ (Java Application) จะ เริ่ม ต้น การทำา งานในคลาสทีม เ มธอดทีช ื่อ main ่ ี ่ โดยมีร ูป แบบของเมธอดดัง นี้ public static void main(String args[]) { [method_body] }
  • 23. การประกาศออปเจ็ค  ออปเจ็ค ทุก ออปเจ็ค ในโปรแกรมภาษาจาวาจะ ต้อ งมีค ำา สัง ประกาศเพื่อ ระบุว ่า ออปเจ็ค นัน เป็น ่ ้ ออปเจ็ค ของคลาสใด โดยมีร ูป แบบการประกาศ ดัง นี้ [modifier] ClassName objectName; • modifier คือ คีย ์เ วิร ์ด ที่อ ธิบ ายคุณ สมบัต ิต ่า งๆของออป เจ็ค • ClassName คือ ชื่อ ของคลาสสำา หรับ ออปเจ็ค นั้น • objectName คือ ชื่อ ของออปเจ็ค  ตัว อย่า ง Student s1;
  • 24. การสร้า งออปเจ็ค  คำา สั่ง ทีใ ช้ใ นการสร้า งออปเจ็ค จะมีร ูป แบบดัง นี้ ่ objectName = new ClassName([arguments]); • objectName คือ ชื่อ ของออปเจ็ค • new คือ คีย ์เ วิร ์ด ของภาษาจาวาเพื่อ ใช้ใ นการสร้า งออป เจ็ค • คือ ชื่อ ของคลาส ClassName • คือ ค่า ที่ต ้อ งการส่ง ผ่า นในการเรีย ก arguments Constructor  ตัว อย่า ง s1 = new Student();
  • 25. การประกาศและสร้า งออปเจ็ค  คำา สั่ง ในการประกาศและสร้า งออปเจ็ค สามารถที่ จะรวมเป็น คำา สัง เดีย วกัน โดยมีร ูป แบบคำา สั่ง ดัง นี้ ่ [modifier] ClassName objectName = new ClassName([arguments]);  ตัว อย่า ง Student s1 = new Student();
  • 26. การเรีย กใช้ส มาชิก ของออปเจ็ค  การเรีย กใช้ค ุณ ลัก ษณะของออปเจ็ค มีร ูป แบบดัง นี้ objectName.attributeName;  การเรีย กใช้เ มธอดของออปเจ็ค มีร ูป แบบดัง นี้ objectName.methodName([arguments]); • objectName คือ ชื่อ ของออปเจ็ค ที่ส ร้า งขึ้น • methodName คือ ชื่อ ของเมธอดของออปเจ็ค นั้น • arguments คือ ค่า ที่ต ้อ งการส่ง ผ่า นไปให้ก ับ เมธอดขอ งออปเจ็ค นั้น  ตัว อย่า ง s1.setName("Thana");
  • 27. ตัว อย่า งโปรแกรม public class Sample { public class Sample { public static void main(String args[]) { public static void main(String args[]) { Student s1 = new Student(); Student s1 = new Student(); Student s2 = new Student(); Student s2 = new Student(); Student s3 = new Student(); Student s3 = new Student(); s1.setID("1234"); s1.setID("1234"); s1.setName("Thana"); s1.setName("Thana"); s1.setGPA(3.25); s1.setGPA(3.25); s1.showDetails(); s1.showDetails(); s2.setID("1122"); s2.setID("1122"); s2.setName("Somchai"); s2.setName("Somchai"); s2.setGPA(2.90); s2.setGPA(2.90); s2.showDetails(); s2.showDetails(); s3.setID("2211"); s3.setID("2211"); s3.setName("Somsri"); s3.setName("Somsri"); s3.setGPA(3.00); s3.setGPA(3.00); s3.showDetails(); s3.showDetails(); }} }}
  • 28. คุณ ลัก ษณะเด่น ของโปรแกรมเชิง ออปเจ็ค  การห่อ หุม ้ (Encapsulation)  การสืบ ทอด (Inheritance)  การมีไ ด้ห ลายรูป แบบ (Polymorphism)
  • 29. การห่อ หุ้ม  หมายถึง การจะเรีย กใช้ค ุณ ลัก ษณะของออปเจ็ค จะทำา ได้โ ดยการเรีย กผ่า นเมธอดเท่า นัน ้  หลัก การของการห่อ หุม คือ การกำา หนดให้ ้ คุณ ลัก ษณะของออปเจ็ค มีค ุณ สมบัต ิเ ป็น private และกำา หนดให้เ มธอดมีค ุณ สมบัต ิเ ป็น public
  • 30. ข้อ ดีข องการห่อ หุ้ม  การซ่อ นเร้น ข้อ มูล (Information Hiding) • ทำา ให้อ อปเจ็ค สามารถติด ต่อ กับ ออปเจ็ค ภายนอกผ่า น เมธอดที่เ ป็น ส่ว นของ interface เท่า นั้น  ความเป็น โมดูล (Modularity) • การพัฒ นาโปรแกรมเชิง ออปเจ็ค จะสามารถกำา หนดให้ ออปเจ็ค แต่ล ะออปเจ็ค มีค วามเป็น อิส ระต่อ กัน
  • 31. ตัว อย่า งโปรแกรม public class Student { public class Student { private String id; private String id; private String name; private String name; private double gpa; private double gpa; public void setID(String ID) { public void setID(String ID) { id = ID; id = ID; }} public void setName(String n) { public void setName(String n) { name = n; name = n; }} public void setGPA(double GPA) { public void setGPA(double GPA) { gpa = GPA; gpa = GPA; }} public void showDetails() { public void showDetails() { System.out.println("ID: "+id); System.out.println("ID: "+id); System.out.println("Name: "+name); System.out.println("Name: "+name); System.out.println("GPA: "+gpa); System.out.println("GPA: "+gpa); }} }}
  • 32. การสืบ ทอด  หมายถึง การนิย ามคลาสใหม่จ ากรูป แบบของ คลาสทีม อ ยูแ ล้ว โดยคลาสใหม่ส ามารถที่จ ะนำา ่ ี ่ คุณ ลัก ษณะและเมธอดของคลาสเดิม มาใช้ไ ด้  โดยในภาษาจาวาจะใช้ค ีย เ วิร ์ด extends ์ เพือ ระบุ ่ การสืบ ทอด  ตัว อย่า ง
  • 33. ตัว อย่า งโปรแกรม public class PartTimeStudent extends Student { } public class PartTimeStudent extends Student { } public class FullTimeStudent extends Student { } public class FullTimeStudent extends Student { } public class GradStudent extends Student { public class GradStudent extends Student { private String thesisTitle; private String thesisTitle; private String supervisor; private String supervisor; public void setThesisTitle(String t) { public void setThesisTitle(String t) { thesisTitle = t; thesisTitle = t; }} public void setSupervisor(String s) { public void setSupervisor(String s) { supervisor = s; supervisor = s; }} }} public class PhDStudent extends GradStudent { public class PhDStudent extends GradStudent { public boolean passQualify; public boolean passQualify; public boolean isPassQualify() { public boolean isPassQualify() { return passQualify; return passQualify; }} }}
  • 34. การมีไ ด้ห ลายรูป แบบ  หมายถึง การทีส ามารถตอบสนองต่อ ข่า วสาร ่ (เมธอด) เดีย วกัน ด้ว ยวิธ ีก ารทีต ่า งกัน และ ่ สามารถกำา หนดออปเจ็ค ได้ห ลายรูป แบบ  Overridden method  Dynamic Binding
  • 36. ตัว อย่า งโปรแกรม class Ball { class Ball { public void throwBall() { } public void throwBall() { } }} class SoccerBall extends Ball { class SoccerBall extends Ball { public void throwBall() { public void throwBall() { System.out.println("Throwing soccerball"); System.out.println("Throwing soccerball"); }} }} class TennisBall extends Ball { class TennisBall extends Ball { public void throwBall() { public void throwBall() { System.out.println("Throwing tennisball"); System.out.println("Throwing tennisball"); }} }} public class TestBall { public class TestBall { public static void main(String args[]) { public static void main(String args[]) { Ball b1 = new Ball(); Ball b1 = new Ball(); SoccerBall b2 = new SoccerBall(); SoccerBall b2 = new SoccerBall(); Ball b3 = new SoccerBall(); Ball b3 = new SoccerBall(); }} }}
  • 37. Unified Modeling Language (UML)  เป็น ภาษาทีส ามารถนำา รูป กราฟฟิก มาจำา ลอง ่ โปรแกรมเชิง ออปเจ็ค ได้  ประกอบด้ว ยสองส่ว นคือ • ไดอะแกรมของคลาส (Class Diagram) • ไดอะแกรมของออปเจ็ค (Object Diagram)
  • 38. ไดอะแกรมของคลาส  เป็น สัญ ลัก ษณ์ท ใ ช้แ สดงคลาส ี่  ประกอบด้ว ยส่ว นต่า งๆสามส่ว นคือ • ชื่อ ของคลาส • คุณ ลัก ษณะภายในคลาส • เมธอดภายในคลาส
  • 39. ไดอะแกรมของออปเจ็ค  ประกอบไปด้ว ยส่ว นต่า งๆสองส่ว นคือ • ส่ว นที่ร ะบุช ื่อ ของออปเจ็ค • ส่ว นที่ร ะบุค ่า ของคุณ ลัก ษณะภายในออปเจ็ค
  • 40. ขั้น ตอนการพัฒ นาโปรแกรม  ขั้น ตอนการวิเ คราะห์ (Analysis)  ขั้น ตอนการออกแบบ (Design)  ขั้น ตอนการเขีย นโปรแกรม (Programming)  ขั้น ตอนการทดสอบ (Testing)  ขั้น ตอนการทำา งาน (Operation)
  • 42. สรุป เนื้อ หาของบท  โปรแกรมเชิง ออปเจ็ค จะมีค ำา นิย ามทีส ำา คัญ สองคำา ่ คือ ออปเจ็ค และคลาส  ออปเจ็ค คือ สิง ต่า งๆทีม อ ยู่ใ นชีว ิต ประจำา วัน จะ ่ ่ ี ประกอบไปด้ว ยคุณ ลัก ษณะและเมธอด  คลาสเปรีย บเสมือ นพิม พ์เ ขีย วของออปเจ็คออป เจ็ค ทีถ ก สร้า งมาจากคลาส ออปเจ็ค หลายออปเจ็ค ่ ู สามารถถูก สร้า งจากคลาสหนึง คลาสได้ ่  คุณ ลัก ษณะของออปเจ็ค คือ ข้อ มูล ทีเ ก็บ อยูใ นออป ่ ่ เจ็ค ซึ่ง จะแบ่ง ออกเป็น ตัว แปรและค่า คงที่  คุณ ลัก ษณะของคลาสเป็น คุณ ลัก ษณะทีใ ช้ร ่ว มกัน ่ ของทุก ออปเจ็ค
  • 43. สรุป เนื้อ หาของบท  ภาษาจาวามีน ย ามในการเขีย นโปรแกรมเชิง ออป ิ เจ็ค เพือ ประกาศคลาส คุณ ลัก ษณะ เมธอด และ ่ ออปเจ็ค  โปรแกรมเชิง ออปเจ็ค จะมีค ุณ ลัก ษณะเด่น อยู่ส าม ประการคือ การห่อ หุ้ม การสืบ ทอด และการมีไ ด้ หลายรูป แบบ  การห่อ หุม คือ การทีใ ห้ค ุณ ลัก ษณะถูก ห่อ หุม อยู่ ้ ่ ้ ภายในเมธอด โดยกำา หนดให้ค ุณ ลัก ษณะมี access modifier เป็น private และกำา หนดให้ เมธอดมี access modifier เป็น public  ข้อ ดีข องการห่อ หุม คือ การซ่อ นเร้น ข้อ มูล และ ้ ความเป็น โมดูล
  • 44. สรุป เนื้อ หาของบท  การมีไ ด้ห ลายรูป แบบคือ การทีก ำา หนดให้ม ก าร ่ ี ตอบสนองต่อ เมธอดเดีย วกัน ด้ว ยวิธ ีก ารทีต ่า งกัน ่ และสามารถกำา หนดออปเจ็ค ได้ห ลายรูป แบบ  Unified Modeling Language (UML) เป็น ภาษา ทีใ ช้ร ูป กราฟฟิก เพื่อ จำา ลองระบบซอฟต์แ วร์ ในที่ ่ นีไ ด้แ นะนำา สัญ ลัก ษณ์ข อง UML ทีส ำา คัญ สอง ้ ่ อย่า งคือ ไดอะแกรมของคลาสและไดอะแกรมขอ งออปเจ็ค  วัฎ จัก รการพัฒ นาโปรแกรมจะประกอบไปด้ว ยขั้น ตอนต่า งๆ 5 ขั้น ตอนคือ ขั้น ตอนการวิเ คราะห์ ขั้น ตอนการออกแบบ ขั้น ตอนการเขีย นโปรแกรม ขัน ้ ตอนการทดสอบ และ ขั้น ตอนการทำา งาน
  • 45. แบบฝึก หัด  แบบฝึก หัด ที่ 1 การออกแบบคลาส • เขีย นข้อ กำา หนดอธิบ ายระบบโปรแกรมสำา หรับ การตัด เกรดของรายวิช าหนึ่ง รายวิช า • เขีย นไดอะแกรมของคลาสเพื่อ อธิบ ายคุณ ลัก ษณะและ เมธอดทั้ง หมดที่ม ีอ ยู่ใ นคลาส