เลฟ ลันเดา
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
เลฟ ลันเดา | |
---|---|
ลันเดาใน ค.ศ. 1962 | |
เกิด | เลฟ ดาวีโดวิช ลันเดา 22 มกราคม ค.ศ. 1908 บากู จักรวรรดิรัสเซีย (ปัจจุบันคือบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน) |
เสียชีวิต | 1 เมษายน ค.ศ. 1968 (60 ปี) มอสโก สหภาพโซเวียต (ปัจจุบันคือมอสโก ประเทศรัสเซีย) |
สุสาน | สุสานโนโวเดวิชี มอสโก |
พลเมือง | จักรวรรดิรัสเซีย สหภาพโซเวียต |
ศิษย์เก่า | มหาวิทยาลัยรัฐบากู มหาวิทยาลัยรัฐเลนินกราด (อนุปริญญา, 1927) Leningrad Physico-Technical Institute (D.Sc., 1934) |
คู่สมรส | K. T. Drobanzeva (แต่งงาน 1937; ลูก 1 คน) (1908–1984) |
รางวัล | รางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ (1962) |
อาชีพทางวิทยาศาสตร์ | |
สาขา | ฟิสิกส์ทฤษฎี |
อาจารย์ที่ปรึกษาในระดับปริญญาเอก | นิลส์ โปร์ |
ลูกศิษย์ในระดับปริญญาเอก | Alexei Alexeyevich Abrikosov Aleksandr Ilyich Akhiezer Igor Ekhielevich Dzyaloshinskii Lev Gor'kov Isaak Markovich Khalatnikov Lev Petrovich Pitaevskii |
ลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ | เยฟเกนี ลิฟชิซ |
เลฟ ดาวีโดวิช ลันเดา (รัสเซีย: Лев Дави́дович Ланда́у) เป็นนักฟิสิกส์คนสำคัญของสหภาพโซเวียตในคริสต์ศตวรรษที่ 20 มีผลงานที่โดดเด่นในหลายด้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านฟิสิกส์ของสสารควบแน่น ลันเดาเกิดเมื่อวันที่ 9(22) มกราคม พ.ศ. 2451 ที่เมืองบากู จักรวรรดิรัสเซีย ได้รับรางวัลทางวิทยาศาสตร์ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศไม่ว่าจะเป็นรางวัลเลนิน รางวัลสตาลินรวมถึงรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ใน พ.ศ. 2505
ประวัติ
[แก้]ชีวิตในวัยเยาว์และการศึกษา
[แก้]เลฟ ดาวีโดวิช ลันเดาเกิดในครอบครัวของวิศวกรปิโตรเลียม ดาวิด ลวาวิช ลันเดากับภรรยาคือ ลูบอฟ เวียนีอามินอฟนา โดยอัจฉริยภาพทางด้านฟิสิกส์และคณิตศาสตร์ของเขานั้นได้แสดงออกมาตั้งแต่อายุยังน้อย ลันเดาศึกษาแคลคูลัสอนุพันธ์และปริพันธ์ตั้งแต่ที่เขามีอายุเพียง 12 ปีเท่านั้น ด้วยวัยเพียง 13 ปีลันเดาจบการศึกษาระดับมัธยมปลายแต่ด้วยอายุที่น้อยเกินไปทำให้ทางครอบครัวไม่ได้ให้เขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยทันที แต่ในอีก 1 ปีต่อมาลันเดาสามารถสอบเข้าศึกษาได้ในคณะฟิสิกส์และคณะเคมีของมหาวิทยาลัยบากู ซึ่งถือว่าเขาเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยที่มีอายุน้อยที่สุดในเวลาต่อมาเขาเลือกศึกษาต่อในคณะฟิสิกส์เพียงคณะเดียว ลันเดาศึกษาที่มหาวิทยาลัยบากูเพียง 2 ปีการศึกษาก็ได้ย้ายไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยเลนินกราดตามคำแนะนำของอาจารย์ต่อแม่ของเขาใน พ.ศ. 2467 ซึ่งเวลานั้นเลนินกราดได้ถือว่าเป็นศูนย์กลางทางวิทยาศาสตร์ของสหภาพโซเวียต ลันเดาศึกษาที่มหาวิทยาลัยเลนินกราดเพียง 2 ปีก็จบการศึกษาพร้อมกับการตีพิมพ์บทความทางวิทยาศาสตร์ฉบับแรกออกมา ใน พ.ศ. 2469 ลันเดากลายเป็นนักศึกษาระดับปริญญาเอกของสถาบันฟิสิกส์และเทคนิคแห่งเลนินกราดซึ่งเวลานั้นลันเดาได้ทำงานวิจัยด้านกลศาสตร์ควอนตัม
ใน พ.ศ. 2472 เลฟ ลันเดาได้เดินทางไปทำงานวิจัยและศึกษาต่อนอกสหภาพโซเวียต โดยช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่เขาได้พบและทำความรู้จักกับนิลส์ โปร์ที่สถาบันฟิสิกส์ทฤษฎีแห่งโคเปนเฮเกน โดยโปร์ได้เอ็นดูและชื่นชอบในตัวของลันเดาเป็นอย่างมาก โดยลันเดาได้ทำการศึกษาปัญหาทางฟิสิกส์ที่ำกำลังเป็นที่สนใจในเวลานั้นและมักจะถกเถียงกับโปร์เป็นประจำ ลันเดาใช้เวลาช่วงนี้ในการศึกษาปัญหา diamagnetism ของโลหะโดยใช้หลักทฤษฎีควอนตัมในการอธิบาย รวมถึงการค้นพบระดับพลังงานควอนตัมของอิเล็กตรอนที่เคลื่อนที่ภายใต้สนามแม่เหล็กที่คงที่ ซึ่งระดับพลังงานนี้ได้รับการเรียกในเวลาต่อมาว่าระดับพลังงานลันเดา