เพลงชาติ
มุมมองและกรณีตัวอย่างในบทความนี้อาจไม่ได้แสดงถึงมุมมองที่เป็นสากลของเรื่อง (เมษายน 2022) |
เพลงชาติ (อังกฤษ: national anthem) หมายถึง บทเพลงที่ประพันธ์ขึ้น เพื่อปลุกเร้าให้หวนระลึกถึงหรือสรรเสริญประวัติศาสตร์ชาติ ขนบธรรมเนียมประเพณีของชาติ หรือการต่อสู้ของชนในชาติ โดยได้รับการยอมรับจากรัฐบาลของชาตินั้น ๆ อย่างเป็นทางการ หรือความตกลงใจร่วมกันของประชาชนในชาติว่า เพลงดังกล่าวเป็นเพลงประจำชาติของตน
ในหนังสือ "เพลงชาติ" โดย สุกรี เจริญสุข ได้กล่าวถึงความหมายของเพลงชาติไว้ 4 ประการ คือ
- เพลงชาติสามารถแสดงถึงความเป็นชาติของประชาชนในชาตินั้น ๆ ได้
- เพลงชาติสามารถแสดงถึงฐานะทางการเมืองว่า เป็นประเทศที่มีเอกราช ไม่ขึ้นแก่ใคร
- เพลงชาติเป็นสัญลักษณ์หรือเครื่องหมายประจำชาติ
- เพลงชาติเป็นกลิ่นไอทางศิลปวัฒนธรรมของประชาชนในกลุ่มชนชาตินั้น ๆ [1]
การเกิดของเพลงชาติ
[แก้]เพลงชาติมีที่มาได้ 3 ลักษณะ ดังนี้[1]
- เพลงชาติเกิดจากเพลงที่ประชาชนนิยม: เพลงชาติประเภทนี้เกิดจากเพลงที่คนนิยมร้องทั่วไปไปในทุกโอกาส เป็นเพลงที่ประชาชนมีความศรัทธานิยมชมชอบ เช่น เพลงก็อดเซฟเดอะคิง (God Save The King) ของสหราชอาณาจักร เพลง ลันด์เดอร์แบร์เกอ ลันด์อัมชโตรเมอ ของประเทศออสเตรีย เป็นต้น
- เพลงชาติเกิดจากความกดดันทางการเมือง : โดยเหตุที่เพลงเป็นเครื่องมือประกอบกิจกรรมทางการเมืองมาตลอด เพลงชาติประเภทนี้จึงเกิดขึ้นจากการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงทางการปกครองและการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม เช่น เพลงลามาร์แซแยส (ฝรั่งเศส: La Marseillaise) ของประเทศฝรั่งเศส เพลงชาติไทยของประเทศไทย ฯลฯ
- เพลงชาติที่เกิดขึ้นโดยลัทธิชาตินิยม : เพลงชาติประเภทนี้เริ่มเกิดขึ้นในยุคโรแมนติก โดยคีตกวีชาวรัสเซียชื่อ ไมเคิล อิแวนโนวิช กลินกา ได้ประพันธ์เพลงเกี่ยวกับการต่อสู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคืออุปรากรเรื่อง "A Life for the Tsar"[a] เพื่อปลุกเร้าให้ชาวรัสเซียเกิดความรักชาติ บทเพลงเหล่านี้ได้กระตุ้นให้กลุ่มคนต่าง ๆ เกิดความคิดชาตินิยมที่จะใช้เพลงชาติเป็นเครื่องหมายแบ่งแยกดินแดน ศาสนา เชื้อชาติ และผลประโยชน์ออกจากกัน แนวคิดดังกล่าวนี้ได้แผ่ขยายไปยังยังกลุ่มเชื้อชาติต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง และเกิดบทเพลงปลุกเร้าให้เกิดความรักชาติขึ้นจำนวนมากจากคีตกวีต่าง ๆ ทั้งนี้ งานเพลงหลายชิ้นไม่ได้เป็นเพลงชาติโดยตรง แต่ก็กระตุ้นให้เกิดความคิดรักชาติตามลัทธิชาตินิยม และทำให้กลุ่มนักการปกครองทั้งหลายสนใจที่จะมีเพลงประจำชาติเฉพาะขึ้นมา
การใช้
[แก้]ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
เพลงชาติถูกนำไปใช้ในบริบทต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง โดยมักมีการนำไปบรรเลงในวันหยุดและเทศกาลสำคัญของชาติ และมีความสัมพันธ์กับการจัดกิจกรรมกีฬาอย่างใกล้ชิด ในการแข่งขันกีฬาอย่างเช่นกีฬาโอลิมปิกนั้น จะมีการบรรเลงเพลงชาติเป็นเกียรติแก่ผู้ที่ชนะเลิศและได้รับเหรียญทองในพิธีมอบเหรียญรางวัล และยังใช้บรรเลงก่อนเริ่มการแข่งขันกีฬาด้วย ซึ่งธรรมเนียมดังกล่าวนี้เริ่มมีขึ้นในการแข่งขันเบสบอลในสหรัฐอเมริกาในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง[2] สำหรับในประเทศอื่น ๆ การใช้เพลงชาตินั้นขึ้นอยู่กับการยอมรับสถานะความเป็นรัฐชาติต่อประเทศนั้น ๆ ด้วย เช่น ในกรณีของไต้หวัน (สาธารณรัฐจีน) คณะกรรมการโอลิมปิกสากลไม่ได้ยอมรับว่าไต้หวันมีสถานะเป็นรัฐชาติที่มีเอกราชเป็นของตนเอง และต้องใช้ชื่อประเทศในแข่งขันกีฬาว่า "จีนไทเป" ไต้หวันจึงต้องใช้เพลงธงชาติ (จีนตัวย่อ: 国旗歌; จีนตัวเต็ม: 國旗歌; พินอิน: gúoqígē กั๋วฉีเกอ; อังกฤษ: National Banner Song) เป็นเพลงสำหรับไต้หวันในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก เป็นต้น[b][3]
ในบางประเทศก็มีการบรรเลงและขับร้องเพลงชาติก่อนเข้าเรียน เพื่อเป็นเครื่องฝึกหัดให้เด็กเกิดความคิดรักชาติ หลายประเทศก็มีความนิยมในการบรรเลงเพลงชาติก่อนการเล่นหรือแสดงมหรสพต่าง ๆ อันรวมถึงการฉายภาพยนตร์[ต้องการอ้างอิง] สถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์หลายแห่งก็ใช้เพลงชาติเป็นเครื่องบอกสัญญาณการเปิดและปิดสถานีในแต่ละวัน[ต้องการอ้างอิง] กรณีดังกล่าวนี้สำหรับประเทศไทย จะนิยมบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีก่อนการเริ่มมหรสพหรือการฉายภาพยนตร์ และเป็นสัญญาณบอกการเปิดหรือปิดสถานีวิทยุและโทรทัศน์ ส่วนเพลงชาติไทยนั้น นอกจากจะบรรเลงเพื่อการเคารพธงชาติไทยในเวลา 8.00 น. และ 18.00 น. แล้ว ยังใช้เป็นสัญญาณบอกการเปิดสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยด้วย[c]
เนื้อร้อง
[แก้]โดยทั่วไปแล้ว เพลงชาติของเกือบทุกประเทศย่อมมีเนื้อร้องประกอบทำนองอยู่เสมอ ยกเว้นในบางประเทศที่ไม่มีการใช้เนื้อร้องฉบับราชการ เช่น บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา สเปน ซานมาริโน เป็นต้น[4] ในจำนวนของเพลงชาติที่มีเนื้อร้องประกอบนั้น มีอยู่จำนวนหนึ่งซึ่งน้อยมากที่เป็นผลงานของนักเขียนรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรม ดังนี้
- เพลง "ชนะ คณะ มนะ" ผลงานของรพินทรนาถ ฐากูร ประพันธ์เมื่อ พ.ศ. 2454 รัฐบาลอินเดียนำมาใช้เป็นเพลงชาติเมื่อ พ.ศ. 2493 (บทประพันธ์เดิมเป็นภาษาเบงกอล แต่ขับร้องในฐานะเพลงชาติด้วยภาษาฮินดี)
- เพลง "อามาร์ โชนาร์ บังกลา" ("Amar Shonar Bangla") ผลงานอีกชิ้นหนึ่งของรพินทรนาถ ฐากูร ประพันธ์เมื่อ พ.ศ. 2449 รัฐบาลบังคลาเทศนำมาใช้เป็นเพลงชาติเมื่อ พ.ศ. 2515
- บทกวี "ยา, วีเอลสเกอร์เดทเทลันเดท" (Ja, vi elsker dette landet - ใช่แล้ว เรารักแผ่นดินนี้) ประพันธ์โดย บียอร์สเตียร์เน มาร์ตินุส บียอร์สัน ในระหว่างปี พ.ศ. 2402 และ พ.ศ. 2411 เรียบเรียงทำนองเพลงโดย ริคาร์ด นอร์ราค และ มีการบรรเลงครั้งแรกเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2407
เพลงประจำชาติ
[แก้]สุกรี เจริญสุข ได้กล่าวถึงเพลงประจำชาติไว้ในหนังสือ "เพลงชาติ" ของตนว่า[1]
...ยังมีเพลงชาติอีกประเภทหนึ่งที่ทำหน้าที่แสดงถึงความเป็นชาติทางด้านศิลปวัฒนธรรม เป็นเพลงประจำชาติ นิยมร้องในหมู่ประชาชนทั่วไปทุกโอกาส เป็นเพลงที่แสดงถึงเอกลักษณ์ประจำชาติโดยอาศัยบันไดเสียง สำเนียงเพลง ทำนอง กระสวนจังหวะที่ใช้ และความหมายของเพลง ทั้งนี้เพลงประจำชาติดังกล่าวไม่ได้เป็นเพลงชาติของทางราชการแต่อย่างใด เช่น เพลงบุหรงกาก๊ะของมาเลเซีย เพลงอารีรังของเกาหลี เพลงซากุระของญี่ปุ่น เพลงโอซูซานาของสหรัฐ เป็นต้น
ดูเพิ่ม
[แก้]หมายเหตุ
[แก้]- ↑ ประพันธ์ขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1836
- ↑ เพลงชาติของไต้หวันมีชื่อเรียกในภาษาจีนว่า "จงหัวหมินกั๋วกั๋วเกอ" (จีนตัวย่อ: 中华民国国歌; จีนตัวเต็ม: 中華民國國歌; พินอิน: Zhōnghuá Míngúo gúogē) แปลว่า เพลงชาติสาธารณรัฐจีน เพลงนี้บางครั้งเรียกชื่อว่า "ซานหมินจูอี้" แปลว่า หลักลัทธิไตรราษฎร์ อันเป็นหลักการของซุนยัตเซ็น ผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐจีน และผู้ก่อตั้งพรรคก๊กมินตั๋ง
- ↑ สามารถรับฟังตัวอย่างเสียงสัญญาณเปิดสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยที่มีการบันทึกไว้ได้ที่ INTERVAL SIGNALS ONLINE เก็บถาวร 2016-03-04 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
อ้างอิง
[แก้]- ↑ 1.0 1.1 1.2 สุกรี เจริญสุข. เพลงชาติ. พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร: เรือนแก้วการพิมพ์, 2532.
- ↑ Musical traditions in sports.
- ↑ Yomiuri Shimbun Foul cried over Taiwan anthem at hoop tourney เก็บถาวร 2013-05-02 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. Published August 6, 2007
- ↑ Associated Press Spain's national anthem to get words. Written by Harold Heckle. Published June 26, 2007.