กุสโก
กุสโก | |
---|---|
ตามเข็มนาฬิกาจากด้านบน: จัตุรัสกลาง; คิวริคันชา; น้ำพุ ณ จัตุรัสกลาง; ทิวทัศน์จากมุมสูงของกุสโก; ชุมชนโคโลเนียล; และ ซัคเซฮวามาน | |
พิกัด: 13°31′30″S 71°58′20″W / 13.52500°S 71.97222°W | |
ประเทศ | เปรู |
แคว้น | กุสโก |
จังหวัด | กุสโก |
ก่อตั้ง | พ.ศ. 1643 |
การปกครอง | |
• นายกเทศมนตรี | วิกเตอร์ จี. โบลูอาร์เต เมดินา |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 385.1 ตร.กม. (148.7 ตร.ไมล์) |
ความสูง | 3,399 เมตร (11,152 ฟุต) |
ประชากร (พ.ศ. 2560) | |
• ทั้งหมด | 428,450 คน |
• ประมาณ (พ.ศ. 2558)[1] | 427,218 คน |
• ความหนาแน่น | 1,100 คน/ตร.กม. (2,900 คน/ตร.ไมล์) |
เขตเวลา | UTC-5 (เวลาในประเทศเปรู) |
รหัสพื้นที่ | 84 |
นครกุสโก * | |
---|---|
แหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโก | |
ตัวเมืองกุสโก | |
พิกัด | 13°30′59.5″S 71°58′49.6″W / 13.516528°S 71.980444°W |
ประเทศ | เปรู |
ภูมิภาค ** | ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน |
ประเภท | มรดกทางวัฒนธรรม |
เกณฑ์พิจารณา | (iii), (iv) |
อ้างอิง | 273 |
ประวัติการขึ้นทะเบียน | |
ขึ้นทะเบียน | 2526 (คณะกรรมการสมัยที่ 7) |
* ชื่อตามที่ได้ขึ้นทะเบียนในบัญชีแหล่งมรดกโลก ** ภูมิภาคที่จัดแบ่งโดยยูเนสโก |
กุสโก (สเปน: Cusco หรือ Cuzco; เกชัว: Qusqu) เป็นชื่อเมืองที่ตั้งอยู่ในเทือกเขาแอนดีสส่วนที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเปรู โดยอยู่บนความสูงประมาณ 3,300 เมตร เมืองกุสโกเคยเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิอินคา หลังจากสเปนมายึดครองและตั้งเมืองหลวงใหม่ที่ลิมา กุสโกก็ลดความสำคัญลง แต่หลังจากที่มีการค้นพบมาชูปิกชูในปี พ.ศ. 2454 เมืองกุสโกก็กลับกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ จนในปี พ.ศ. 2526 องค์กรยูเนสโกได้ประกาศให้เป็นแหล่งมรดกโลกทางด้านวัฒนธรรม
ประวัติ
[แก้]ยุคอินคา
[แก้]เมืองกุสโกเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิอินคา ตามตำนานของอินคา เมืองกุสโกถูกสร้างโดยปาชากูตี ผู้ซึ่งทำลายเมืองเก่าและสร้างกุสโกใหม่ให้เป็นศูนย์กลางแห่งอาณาจักรอินคาที่ยิ่งใหญ่ แต่จากหลักฐานทางโบราณคดีบ่งชี้ว่าเมืองนี้ได้ค่อย ๆ พัฒนาขึ้นตั้งแต่สมัยก่อนปาชากูตีแล้ว
เมืองถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนคือกุสโกตอนบน (Hanan) และกุสโกตอนล่าง (Urin) ซึ่งถูกแบ่งย่อยต่อไปอีกเป็น 4 เขต (suyu) ได้แก่ ชินไชซูยู (เขตตะวันตกเฉียงเหนือ) อันตีซูยู (เขตตะวันออกเฉียงเหนือ) กุนตีซูยู (เขตตะวันตกเฉียงใต้) และกูยาซูยู (เขตตะวันออกเฉียงใต้) ถนนจากทั้งสี่ส่วนนี้เชื่อมต่อไปถึงสี่ภาคของอาณาจักร ผู้นำของแต่ละภาคจะต้องสร้างบ้านในเขตเมืองกุสโกและเข้ามาอาศัยอยู่ทุกปี หลังจากสมัยของจักรพรรดิปาชากูตี เมื่อกษัตริย์สิ้นพระชนม์ บัลลังก์จะตกเป็นของพระราชโอรส แต่ดินแดนของกษัตริย์จะถูกแบ่งกันในหมู่พระราชวงศ์พระองค์อื่น ๆ ดังนั้นจักรพรรดิพระองค์ใหม่จึงต้องขยายดินแดนใหม่เพิ่มให้กับจักรวรรดิ
ยุคหลังโคลัมบัส
[แก้]ฟรันซิสโก ปิซาร์โร ผู้ซึ่งเอาชนะจักรพรรดิแห่งอินคาได้เดินทางมาถึงเมืองกุสโกอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2077 หลังจากนั้นมีการสร้างสถาปัตยกรรมใหม่ ๆ ที่เป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมอินคาและอิทธิพลของศิลปะสเปนหลายแห่ง เช่นโบสถ์ซานตากลารา
อ้างอิง
[แก้]- ↑ Perú: Población estimada al 30 de junio y tasa de crecimiento de las ciudades capitales, por departamento, 2011 y 2015. Perú: Estimaciónes y proyecciones de población total por sexo de las principales ciudades, 2012–2015 (Report). Instituto Nacional de Estadística e Informática. March 2012. สืบค้นเมื่อ 2015-06-03.
- Terence N. D'Altroy, The Incas, Blackwell Publishing, 2002, หน้า 109-115.