รูปแบบชาร์ต
XAU/USD [ SMC ]📌 มุมมอง XAU/USD 🏆 (M15)
แผนของเราในตอนนี้คือ รอราคาเดินทางขึ้นไปหา Sz. ด้านบน และ รอการยืนยันใน LTF หากมีการยืนยันเราจะทำการเข้าSell ตามลงมาครับ
หากราคาได้ ทำลาย Sz.และ Choch ไปได้ เราจะสลับฝั่งไปหา Setup Buy เพื่อ Buy ขึ้นไปหา Sz. ด้านบนครับ
แต่ถ้าหากราคา Bos ลงมาต่อ เราจะมาวางแผนหาโซนใหม่กันอีกทีครับ 🫡💙
กลุ่ม,Signal > linktr.ee
ทองคำ XAUUSD ต้องทำฐาน SUPPORT 61.8% ที่ 2588 เพื่อฟื้นตัวทองคำ XAUUSD ต้องทำฐาน SUPPORT 61.8% ที่ 2588 เพื่อฟื้นตัว
ภาพนี้อธิบายถึงหลักการยืนยันการเข้าเทรด (Entry Confirmation) สำหรับการเทรดในตลาดการเงิน โดยมีองค์ประกอบและตัวชี้วัดที่ใช้เพื่อยืนยันการเข้าเทรดอย่างปลอดภัยและมั่นใจมากขึ้น ดังนี้:
### หลักการยืนยันการเข้าเทรด
1. **Trendline Break & Retest**: การทะลุและทดสอบแนวโน้มที่ลากไว้ (การที่ราคาเคลื่อนไหวผ่านเส้นแนวโน้มและกลับมาทดสอบเส้นนี้อีกครั้ง)
2. **0.618% Fibo Retracement**: การปรับตัวของราคากลับมาอยู่ในระดับ 0.618% ตาม Fibonacci retracement ซึ่งมักเป็นจุดกลับตัวที่สำคัญ
3. **Bullish Market Structure**: โครงสร้างตลาดที่แสดงถึงทิศทางขาขึ้น (มีการทำจุดสูงสุดใหม่ที่สูงขึ้นและจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น)
4. **Bullish Engulfing**: รูปแบบแท่งเทียนที่มีแท่งสีเขียวขนาดใหญ่กลืนแท่งสีแดงก่อนหน้า บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้มขาขึ้น
### ตัวอย่างรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคา
- **เส้นแนวโน้ม (Trendline)**: สังเกตการทะลุเส้นแนวโน้มที่ลากผ่านจุดสูง (LH) หลายจุดและการทดสอบกลับมาที่เส้นแนวโน้มนั้น
- **ระดับ Fibonacci**: ราคาเคลื่อนที่ผ่านจุด 0%, 0.272%, และ 0.618% เพื่อแสดงถึงการเคลื่อนไหวของราคา
### รูปแบบแท่งเทียนที่ช่วยยืนยันการเข้าเทรด
- **Tweezer Bottoms**: รูปแบบแท่งเทียนคู่ที่แสดงการกลับตัวจากแนวโน้มขาลง
- **Morning Star**: รูปแบบสามแท่งเทียนที่แสดงการกลับตัวจากแนวโน้มขาลงไปสู่ขาขึ้น
- **Three Soldiers**: รูปแบบสามแท่งเทียนสีเขียวต่อเนื่อง แสดงถึงการเคลื่อนไหวขึ้นที่แข็งแกร่ง
### ข้อความเพิ่มเติม
หากพบว่ามีรูปแบบแท่งเทียนใด ๆ เหล่านี้ประกอบกับแนวคิดทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง จะช่วยยืนยันความมั่นใจในการเข้าเทรด
**สรุป**: ภาพนี้แสดงกลยุทธ์การเข้าเทรดที่มีการใช้ทั้งโครงสร้างตลาดและรูปแบบแท่งเทียนเพื่อยืนยันว่าการเข้าเทรดมีความเป็นไปได้สูงในความสำเร็จ
เทรนด์ทองคำ 18/11 - การฟื้นตัวของ S-T เริ่มต้นขึ้นตลาดทองคำในสัปดาห์ที่แล้วเป็นไปตามการคาดการณ์ของเรา ในขณะที่ช่วงการแข็งค่ายังคงดำเนินต่อไป ราคาทะลุแนวต้าน 2650(1) ในช่วงต้นสัปดาห์ โดยเริ่มเคลื่อนตัวลงสู่เป้าหมายของเราที่ 2600 ต่อมาราคาตกลงสู่ระดับต่ำสุดประจำสัปดาห์ที่ 2536 ตามข้อมูลเงินเฟ้อในวันพุธ หลังจากนั้นมีการดีดตัวขึ้นเล็กน้อย โดยปิดสัปดาห์ใกล้กับปี 2562 ในวันศุกร์ ซึ่งลดลง 102 ดอลลาร์
หลังการเลือกตั้งของสหรัฐฯ เงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่า ส่งผลให้ราคาทองคำร่วงลงกว่า 250 ดอลลาร์ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม แรงกดดันในการขายลดลงหลังจากการฟื้นตัวจากปี 2538 เป็นที่น่าสังเกตว่าประธานเฟด พาวเวลล์ กล่าวอย่างชัดเจนเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้วว่า ไม่มีการเร่งรีบในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามสภาวะตลาดในปัจจุบัน ซึ่งเป็นการจำกัดศักยภาพของทองคำที่สูงขึ้นในขณะนี้ เนื่องจากไม่มีข้อมูลตลาดที่มีนัยสำคัญในปฏิทินสำหรับสัปดาห์นี้ ราคาทองคำจึงคาดว่าจะทรงตัวในทิศทางด้านข้าง
แผนภูมิ 1 ชั่วโมง (ด้านบน) > โมเมนตัมขาลงมีการชะลอตัวลงตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่แล้ว หากราคาทะลุออกจากเส้นแนวโน้มขาลงในปัจจุบัน (3) เราก็สามารถกำหนดเป้าหมายขาขึ้นเริ่มต้นที่ 2620 (4) เนื่องจากไม่มีข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ จึงถือว่าช่วงปี 2555-2620 (4) เป็นเขตปฏิบัติการชั่วคราว
กราฟรายวัน (ด้านบน) >ทองคำทะลุแนวต้าน 50% ในสัปดาห์ที่แล้ว (5) และดีดตัวขึ้นจากเส้น MA 100 วัน (6) เราคาดแนวต้านระยะสั้นได้ประมาณ 2,600-2,605(7) ในกรณีที่มีการละเมิดสูงกว่า 2600 เป้าหมายถัดไปคาดว่าจะอยู่ใกล้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 10 วันที่ประมาณ 2630
P.To
BTC พยายามหาทางขึ้นอยู่ใช่มั้ย?ตอนนี้ BTC ยังวิ่งในกรอบสามเหลี่ยมอยู่ ถ้าหลุดไปทางใดทางนึงไม่ว่าจะข้างบนหรือข้างล่างรับรองได้ร้องกรี๊ดดดแน่นอน
มุมมองผม
ถ้ายังไม่ผ่าน 91,680 ก็ยังไว้ใจไม่ได้
ควรวิ่งเหนือ 90,300
ตอนที่เขียน content นี้ราคาแตะ 0.618 อยู่ ก่อนปิดแท่ง week ดูเหมือนรอเลือกทางในระยะสั้นอยู่
Gold Market Outlook【18 พฤศจิกายน 2567】Gold Market Outlook【18 พฤศจิกายน 2567】💫
📰 ราคาทองร่วงแรงที่สุดในรอบ 3 ปี! หลังตลาดคาดเฟดชะลอลดดอกเบี้ย
ราคาทองคำวันศุกร์นี้ส่อแววร่วงหนักที่สุดในรอบกว่า 3 ปี 📉 หลังนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น กระทบความน่าสนใจในการลงทุนทองคำ 💰
ดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มแข็งค่าสูงสุดในรอบเดือน ทำให้ทองคำมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น 🌍
ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง หลังยอดค้าปลีกในสหรัฐฯ เติบโตเกินคาด ✨
นักเศรษฐศาสตร์มองว่านโยบายภาษีของว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่อาจกระตุ้นเงินเฟ้อ ส่งผลให้เฟดต้องชะลอการลดดอกเบี้ย 📊
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่สูงส่งผลลบต่อทองคำ เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน 💡
ล่าสุดประธานเฟดได้ออกมาระบุว่า ยังไม่จำเป็นต้องรีบลดอัตราดอกเบี้ย โดยตลาดคาดการณ์โอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธันวาคมลดลงเหลือ 62% จากเดิม 83% 📈
🔍 วิเคราะห์ทางเทคนิค:
ช่วงต้นสัปดาห์ให้ระวังราคาปรับตัวลงเล็กน้อย โดยมีแนวรับที่ 2554 และ 2539 ตามลำดับ หากราคาไม่หลุดจุดต่ำสุดใหม่ อาจมีโอกาสปรับตัวขึ้นในภายหลัง
💡 กลยุทธ์การลงทุน:
- ช่วงนี้แนะนำดักขายก่อน แต่ควรลดปริมาณการลงทุนเนื่องจากราคาลงมาต่ำมากแล้ว
- หากราคาลงไปทดสอบแนวรับแล้วไม่หลุด อาจพิจารณาดักซื้อสวนเทรนระยะสั้น
📈📉 แนวรับ-แนวต้าน
XAUUSD
สถานะ: Slightly Bearish 🐻
🔼 แนวต้าน 3: $2,585
🔼 แนวต้าน 2: $2,575
🔼 แนวต้าน 1: $2,565
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,554
🔽 แนวรับ 2: $2,547
🔽 แนวรับ 3: $2,539
✍️ วิเคราะห์โดย: Beam 📊💡
ราคา BTC วิ่งอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมจะหลุดได้หรือไม่?แนวโน้มและการวิเคราะห์:
แนวโน้มราคา: ราคาบิตคอยน์มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยยังคงเคลื่อนไหวในกรอบขาขึ้น (uptrend) ตามกราฟรายวัน (HTF) ที่มีจุดทำ Higher High ใหม่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา【20】
จุดแนวรับและแนวต้านที่สำคัญ:
แนวต้านแรก: ใกล้ระดับ 92,000 - 93,000 ดอลลาร์ หากราคาทะลุผ่านได้ อาจทดสอบแนวต้านถัดไปที่ประมาณ 95,000 ดอลลาร์
แนวรับหลัก: อยู่ที่ประมาณ 89,000 - 90,000 ดอลลาร์ โดยมีโอกาสที่ราคาจะปรับฐานในโซนนี้เพื่อสร้างแรงซื้อก่อนดีดตัวกลับ
ตัวชี้วัดทางเทคนิค:
สัญญาณในกรอบ LTF (กรอบระยะสั้น) แนะนำให้รอจังหวะย่อในเขต Discount Zone เพื่อเข้าสู่สถานะซื้อ โดยต้องรอสัญญาณยืนยันอีกครั้งก่อนดำเนินการ
ข่าวสารและปัจจัยเสริม:
ความนิยมของบิตคอยน์ยังคงเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในตลาดเอเชีย ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายยังคงสูง【19】
ราคาบิตคอยน์ (BTC) ปัจจุบันขยับตัวอยู่ที่ 91,294 USD และยังคงเคลื่อนไหวในกรอบขาขึ้นตามแนวโน้มระยะยาว
ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าราคามีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 93,000 ดอลลาร์ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ หากทะลุแนวต้านสำคัญไปได้ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรจับตาแนวรับที่ 89,000 USD ซึ่งอาจเป็นจุดพักตัวก่อนดีดกลับ การตัดสินใจลงทุนในช่วงนี้ควรพิจารณาจากข้อมูลพื้นฐานและตัวชี้วัดทางเทคนิคอย่างรอบคอบ
การบ้าน WK 18-22 / 11 / 67* WK ที่แล้วบอกว่า น่าจะปิดเป็นรูป บาร์ บวก
* แต่ปิดจริง ก็ ไปทางลง (เกือบจะเป็นรูปเครื่องหมาย บวก)
* ถ้าสันนิษฐานของผมถูกตลาดควรเลือกที่จะลงในอาทิตย์หน้า สันนิษฐานจาก การซื้อหุ้นของกองทุน เป็นหลัก ซื้อแล้วทไมไม่ขึ้น เพราะเขารอต้นทุนถูก ใกล้สิ้นปีแล้วกองทุนคงไม่ทำอะไรผลีผลาม
* ตลาดน่าจะ sideway down มากกว่า แต่นั่นแหละไม่มีใครรู้ ถ้ารู้ขนาดผู้จัดการกองทุนคงไม่เจ๊ง
* wk หน้าจะเป็นอีก wk นึงที่ คนเล่น sidway เป็นจะได้ตังค์ คนเล่นไม่เป็นให้อยู่เฉยๆ จะดีกว่า
สุรุป
ตลาดน่าจะอยู่ในกอรบสีเหลี่ยม ในภาวะที่ไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ตลาด เมื่อราคาใกล้กรอบล่าง ฝั่ง S ควรปิดสัญญา เมื่อราคสใกล้กรอบบน ฝั่ง L ควรปิดสัญญา สำหรับคนเล่นไซด์เวย์เป็น
BTC Swing Buy ขา 2BTC Swing Buy ขา 2
TF4H
BTC เบรค Pattern กรอบสะสมประมาณ 2 ร้อยกว่าวัน
ขาแรกผ่านไปแล้วบริเวณ 74000-76000
จังหวะนี้เป็นขา 2 พักตัว TF4H Volume ลดลง
และมีแท่งกลับตัว เป็นจุดเข้า Swing Buy
โดยวาง SL ไว้ที่หลุด Low ที่ราคา 84800
และ TP1 หัว High ก่อนหน้า 93200
TP2 Fibonacci 161.8 ที่ราคา 97296
ตามลำดับ
XAUUSDหลังจากรอดูอาการเมื่อวานหนึ่งวันได้ขอสรุปว่าพอเห็นอะไรเพิ่มมาบ้างแล้วนะครับ หลังราคาหลุด 2600 มาซึ่งเป็นแนวที่ไม่ควรหลุดหากน้องทองแค่จะปรับฐานระยะสั้นแล้วขึ้นต่อ ตอนนี้ไม่เป็นอย่างนั้นแล้วนะครับผมมองว่านี้เป็นการพักตัวรอบใหญ่เลยละโดยมองว่าลงได้ถึง 2500 หรือแถวๆ 2470 เลยทีเดียว แต่ตอนนี้เค้ามาถึงช่วงปลายๆเทรนแล้วจะไม่ได้ลงแรงเหมือนที่ผ่านมา ผมก็จะเปลี่ยนวิธีเทรดอีกรอบตามกราฟนะครับโดยรอบนี้จะรอตามโซนที่ทำไว้ให้ในแผน รอการกวาด SL และเข้าออเดอร์ในโซนนะครับ
**ขอให้เป็นวันที่ดีครับ**
BTC/USD [ SMC ]📌 มุมมอง BTC/USD 🏅 (H1)
ราคาได้ขึ้นไปทำ ATH และโครงสร้างตลาดได้มีการย่อลงมาตามปกติ ซึ่งด้านล่างมี Demand รอรับอยู่ เป็นจุดที่มีนัยสำคัญ และยังมี $$$ ก่อนถึงโซน
แผนของเราในตอนนี้คือ รอราคาเดินทางลงไปหา Dz. ด้านล่าง และ รอการยืนยันใน LTF หากมีการยืนยันเราจะทำการเข้า Buy
หากราคาได้ ทำลาย Dz. และ Choch ไปได้ เราจะสลับฝั่งไปหา Setup Sell อีกทีครับ
แต่ถ้าหากราคา Bos ขึ้นไปต่อ เราจะมาวางแผนหาโซนใหม่กันอีกทีครับ 🫡💙
กลุ่ม,Signal >> linktr.ee
ย้ำเตือน ตลาดหุ้นไทยลงในกรอบ 1447.72-1429.46-1411.21 ตามลำดับย้ำเตือน ตลาดหุ้นไทยลงในกรอบ 1447.72-1429.46-1411.21 ตามลำดับ
หลักการของ **Joe DiNapoli** เกี่ยวกับการใช้งาน **Fibonacci Retracements** นั้นมีจุดเด่นในการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดและหาจุดกลับตัวของราคาอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการใช้งานเส้น **38.2%** และ **61.8%** ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สำคัญในกลยุทธ์ของเขา
### พื้นฐานของ Fibonacci Retracements
Fibonacci Retracements เป็นเครื่องมือที่นักวิเคราะห์ใช้ในการหาจุดที่ราคามีโอกาสจะเกิดการปรับฐานหรือลดลงในทิศทางตรงข้ามกับแนวโน้มเดิม โดยสัดส่วนยอดนิยมคือ:
- **38.2%**: มักถูกใช้ในการบอกถึงการปรับฐานเบาๆ ของราคา
- **61.8%**: เป็นระดับสำคัญที่ถือว่าเป็นแนวรับ/แนวต้านที่มีโอกาสสูงที่ราคาจะกลับตัวหรือเคลื่อนที่ในทิศทางใหม่
### หลักการของ Joe DiNapoli
Joe DiNapoli ได้พัฒนาแนวทางการใช้งาน Fibonacci Retracements ด้วยการเน้นการวิเคราะห์แบบเจาะลึกและใช้ควบคู่กับเครื่องมืออื่น เช่น **DiNapoli Levels** เพื่อให้ได้ผลการวิเคราะห์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น หลักการสำคัญที่เขาใช้กับ Fibonacci 38.2% และ 61.8% ได้แก่:
1. **การระบุจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของแนวโน้ม**:
- DiNapoli จะเริ่มจากการระบุจุดสูงสุด (High) และจุดต่ำสุด (Low) ของการเคลื่อนไหวของราคาที่เห็นได้ชัดเจน จากนั้นจึงใช้ Fibonacci Retracements ในการกำหนดระดับการปรับฐาน
2. **ระดับ 38.2%**:
- เป็นจุดที่ราคามักปรับฐานแบบตื้น หากราคายืนเหนือระดับนี้ได้แสดงว่าแนวโน้มหลักยังคงแข็งแรง และมักใช้ในการตัดสินใจสำหรับการเข้าซื้อ (Buy) หรือขาย (Sell) ตามแนวโน้มเดิม
3. **ระดับ 61.8%**:
- เป็นระดับที่สำคัญมากสำหรับ DiNapoli เพราะถือว่าเป็น "Golden Ratio" ที่มีโอกาสสูงที่จะเกิดการกลับตัวของราคา การยืนเหนือหรือต่ำกว่าระดับนี้จะเป็นตัวชี้วัดถึงแนวโน้มที่อาจเปลี่ยนทิศทาง
4. **การใช้งานร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ**:
- DiNapoli มักแนะนำให้ใช้ Fibonacci ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ เช่น **Moving Averages** หรือ **Oscillators** เพื่อยืนยันการวิเคราะห์ เช่น หากระดับ Fibonacci 61.8% ตรงกับ Moving Average ที่สำคัญ มันจะยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งในการใช้เป็นแนวรับหรือแนวต้าน
### ตัวอย่างการใช้งาน
สมมติว่าราคาของสินทรัพย์หนึ่งมีแนวโน้มขาขึ้นและกำลังปรับฐาน หากราคาลดลงมาถึงระดับ 38.2% และเริ่มฟื้นตัว นั่นอาจเป็นสัญญาณว่าราคาจะเดินหน้าต่อไปในทิศทางเดิม แต่หากราคาลดลงมาถึงระดับ 61.8% และเริ่มกลับตัวขึ้น ก็เป็นจุดที่น่าสนใจมากในการพิจารณาว่าราคาจะเกิดการกลับตัวที่สำคัญ
หลักการของ Joe DiNapoli จึงเน้นการใช้ Fibonacci อย่างรอบคอบและพิจารณาแนวโน้มในภาพรวมเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจเทรด.
Gold Market Outlook【15 พฤศจิกายน 2567】Gold Market Outlook【15 พฤศจิกายน 2567】💫
ราคาทองร่วงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ท่ามกลางดอลลาร์แข็งค่า 📉
ราคาทองคำเผชิญแรงกดดันอย่างต่อเนื่องในวันนี้ โดยปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ท่ามกลางการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐที่แตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี 💹 ส่งผลให้ราคาทองคำมีมูลค่าสูงขึ้นสำหรับผู้ซื้อต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงมั่นใจว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคม ⬇️ หลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐฯ
ผู้เชี่ยวชาญด้านโลหะมีค่าประเมินว่า ข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดไม่น่าจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อราคาทองคำอย่างมีนัยสำคัญ 📊 โดยคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะรอดูนโยบายของรัฐบาลชุดใหม่ก่อนตัดสินใจดำเนินการใดๆ 🏛️ ขณะที่ตลาดประเมินโอกาส 76% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธันวาคม 💫 เนื่องจากตลาดแรงงานที่เริ่มผ่อนคลาย แม้ว่าการชะลอตัวของเงินเฟ้อจะหยุดชะงักก็ตาม
ในแง่มุมทางเทคนิค ราคาทองคำวันนี้มีโอกาสเห็นการชะลอตัวหลังจากปรับตัวลงต่อเนื่อง 📈 โดยระหว่างวันราคามีโอกาสรีบาวด์ขึ้นทดสอบแนวต้านก่อนย่อตัวลงในภายหลัง ⚡ สำหรับกลยุทธ์การเทรดวันนี้ แนะนำให้หาจังหวะดักขายบริเวณแนวต้านเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น 🎯 พร้อมลดปริมาณการลงทุนเพื่อบริหารความเสี่ยง
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามวันนี้ได้แก่ ถ้อยแถลงของประธานเฟด เจอโรม พาวเวล 👨💼 และข้อมูลยอดค้าปลีกที่จะเปิดเผยในวันศุกร์ 📊 รวมถึงทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ 💵 และความเคลื่อนไหวทางการเมืองสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อความผันผวนของราคาทองคำ
📈📉 แนวรับ-แนวต้าน (08:45)
XAUUSD
สถานะ: Slightly Bearish 🐻
🔼 แนวต้าน 3: $2,605
🔼 แนวต้าน 2: $2,693
🔼 แนวต้าน 1: $2,577
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,562
🔽 แนวรับ 2: $2,551
🔽 แนวรับ 3: $2,538
✍️ วิเคราะห์โดย: Beam 📊💡
ทอง XAUUSD กลับเข้ากรอบ 2548-2560 ไม่ได้ ก็ทำใจครับXAUUSD เกิดสัญญาณ **MaChao Flip Sell 9** เป็นหนึ่งในเครื่องมือจากระบบการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้หา "When The Market Turn" ซึ่งใช้เพื่อทำนายทิศทางการเคลื่อนไหวของราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการระบุช่วงเวลาที่ราคาอาจจะเปลี่ยนทิศทางหรือถึงจุดที่ตลาดจะมีการกลับตัว
### การทำงานของ *MaChao Flip Sell 9**
ในกรณีของ XAUUSD เกิด *MaChao Flip Sell 9**
1. **การสร้างสัญญาณ SELL**:
สัญญาณ *MaChao Flip Sell 9** จะเกิดขึ้นเมื่อราคาปิดในแต่ละวัน (หรือในกรณีนี้อาจจะใช้กราฟรายสัปดาห์) ทำให้ตัวเลขของตัวบ่งชี้ นับ ถึง 9 ต่อเนื่องกัน โดยที่ราคาปิดในวัน/สัปดาห์ที่ผ่านมา (หรือตามกรอบเวลาที่ใช้) จะมีการเพิ่มขึ้นในลักษณะที่ไม่สามารถทำราคาต่ำกว่า 4 วันก่อนหน้า (หรือ 4 สัปดาห์ก่อนหน้า) ได้
2. **การอ่านสัญญาณ**:
เมื่อราคาสามารถทำให้ตัวเลขถึง 9 แล้วและเกิดการ **ปิดสัญญาณ SELL** (หรือก็คือการมีการขึ้นถึง 9 แล้ว) สัญญาณนี้แสดงว่า ตลาดอาจจะเข้าสู่จุดที่ **ราคาจะหันกลับลง** หรือมีการปรับฐานลงมาเป็นการแกว่งตัวออกจากการขึ้นที่ยาวนาน
3. **สิ่งที่จะเกิดขึ้น**:
- ถ้าเกิดสัญญาณ *MaChao Flip Sell 9** ขึ้นในกราฟรายสัปดาห์ของทองคำ XAUUSD นั่นแสดงว่าราคาอาจจะมาถึงจุดที่ **ราคาจะเริ่มปรับตัวลง** หลังจากการขึ้นไปในช่วงก่อนหน้า
- อย่างไรก็ตาม, คำแนะนำที่สำคัญคือการดูความเสี่ยงและการใช้ตัวบ่งชี้อื่นๆ ร่วมด้วย เช่น การวิเคราะห์ระดับแนวรับ/แนวต้าน, การใช้เส้นค่าเฉลี่ย (MA), หรือสัญญาณจากเครื่องมืออื่นๆ เพื่อยืนยันความถูกต้องของสัญญาณนี้
### สรุป:
เมื่อมีสัญญาณ *MaChao Flip Sell 9** ในกราฟรายสัปดาห์ของทองคำ XAUUSD ทำนายว่า **ราคามีแนวโน้มที่จะปรับตัวลง** หลังจากการขึ้นมานาน แต่ก็ยังควรตรวจสอบการยืนยันจากสัญญาณอื่นๆ ด้วย เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจลงทุน
Gold Market Outlook【14 พฤศจิกายน 2567】Gold Market Outlook【14 พฤศจิกายน 2567】💫
📰 "ทองคำร่วงต่อเนื่อง หลังดอลลาร์แข็งค่า-บอนด์ยีลด์พุ่ง"
ราคาทองคำปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 📉 เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ปรับตัวสูงขึ้น หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือนตุลาคมออกมาตามที่ตลาดคาดการณ์ 📊
กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานว่า การชะลอตัวของเงินเฟ้อนับตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมามีความคืบหน้าช้าลง ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ 💭
ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวสูงขึ้น 📈
นักวิเคราะห์ตลาดการเงินเปิดเผยว่า "ดัชนี CPI เพิ่มขึ้นตามคาด ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำแบบผสมผสาน โดยตลาดเพิ่มการคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนธันวาคม" 🎯
ตลาดให้น้ำหนักโอกาสที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมที่ 82% เพิ่มขึ้นจาก 58% ก่อนการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ ตามข้อมูลจาก CME FedWatch 📊
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนเชื่อว่าหากทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง อาจทำให้เฟดชะลอการผ่อนคลายนโยบายการเงิน หากเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นจากการขึ้นภาษีนำเข้าที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ⚠️
สำหรับมุมมองระยะสั้น ราคาทองคำอาจฟื้นตัวขึ้นไปแถว $2,650 ต่อออนซ์ ก่อนที่จะปรับตัวลงอีกครั้ง 📉
ส่วนปัจจัยที่ต้องจับตาต่อไป ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สหรัฐฯ ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ในวันพฤหัสบดี และยอดค้าปลีกในวันศุกร์ รวมถึงถ้อยแถลงของประธานเฟดและเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางท่านอื่นๆ 👀
นักวิเคราะห์ระบุว่า เป้าหมายด้านบวกของราคาทองคำอยู่ที่การปิดเหนือแนวต้านแข็งแกร่งที่ $2,700 ส่วนเป้าหมายด้านลบระยะใกล้คือการผลักดันราคาให้ต่ำกว่าแนวรับทางเทคนิคที่สำคัญที่ $2,500 🎯
📊 การวิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาทองคำวันนี้ยังคงมีโอกาสปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยมีแนวรับสำคัญเป็นจุดพักฐานรออยู่ที่บริเวณ 2545+- ซึ่งเป็นโซนแนวรับจากกราฟ D1 หากวันนี้ราคาปรับตัวขึ้นไปแนวโซนแนวต้านแนะนำให้รอดักเปิดสถานะ Sell ลงมาได้อีกครั้งหนึ่ง
📈📉 แนวรับ-แนวต้าน (08:30)
XAUUSD
สถานะ: Slightly Bearish 🐻
🔼 แนวต้าน 3: $2,623
🔼 แนวต้าน 2: $2,602
🔼 แนวต้าน 1: $2,593
——————————
🔽 แนวรับ 1: $2,566
🔽 แนวรับ 2: $2,560
🔽 แนวรับ 3: $2,555
✍️ วิเคราะห์โดย: Beam 📊💡