เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน

เอ็ดเวิร์ด โจเซฟ สโนว์เดน (อังกฤษ: Edward Joseph Snowden; เกิดวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2526) เป็นอดีตนักวิเคราะห์ข่าวกรอง[4]ชาวอเมริกัน ผู้ปล่อยข่าวรายละเอียดของโครงการการสอดส่องดูแลมวลชนลับสุดยอดของรัฐบาลสหรัฐและอังกฤษหลายโครงการแก่สื่อ[5][6] สโนว์เดนเป็นอดีตนักเทคนิคของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (NSA) ของสหรัฐ และอดีตลูกจ้างของสำนักข่าวกรองกลาง (CIA)

เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน
สโนว์เดนใน พ.ศ. 2556
เกิดเอ็ดเวิร์ด โจเซฟ สโนว์เดน
(1983-06-21) 21 มิถุนายน ค.ศ. 1983 (41 ปี)
เอลิซาเบธซิตี รัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐ.
พลเมือง
ศิษย์เก่า
อาชีพที่ปรึกษาความปลอดภัยทางคอมพิวเตอร์
นายจ้าง
มีชื่อเสียงจากเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการ ปริซึม ที่สอดส่องข้อมูลพลเมืองและรัฐบาลชาติอื่น ๆ; ลี้ภัยในประเทศรัสเซียตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2556
คู่สมรสLindsay Mills (สมรส 2017)
บุตร2[3]
ญาติเอ็ดเวิร์ด เจ. บาร์เร็ตต์ (ปู่)
รางวัลRight Livelihood Award
เว็บไซต์edwardsnowden.substack.com
ลายมือชื่อ

สโนว์เดนปล่อยสารสนเทศดังกล่าวแก่หนังสือพิมพ์ เดอะการ์เดียน ของอังกฤษเป็นหลัก ในฤดูใบไม้ผลิปี 2556 ขณะรับจ้างเป็น "นักวิเคราะห์โครงสร้างพื้นฐาน" ของผู้รับจ้างเอ็นเอสเอ เดอะการ์เดียนตีพิมพ์ชุดการเปิดโปงในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม ปีเดียวกัน และเปิดเผยโครงการต่าง ๆ เช่น การดักเมทาดาทา (metadata) โทรศัพท์ของสหรัฐและยุโรป และโครงการสอดส่องดูแลอินเทอร์เน็ต อย่าง ปริซึม ฯลฯ กล่าวกันว่าการเปิดเผยความจริงของสโนว์เดนจัดเป็นการฝ่าฝืนความมั่นคงของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติครั้งสำคัญที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์สหรัฐ[7][8]

สโนว์เดนสามารถหลบหนีออกจากฮาวายได้ก่อนที่จะถูกทางการสหรัฐจับกุม เขาบินไปยังฮ่องกงคนเดียว เมื่อ 20 พฤษภาคม 2556 สโนว์เดนมีแผนจะเดินทางต่อไปยังเอกวาดอร์ ที่พร้อมให้สิทธิ์ลี้ภัยแก่เขา ในขณะที่รัฐบาลสหรัฐยื่นคำขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนแก่ฮ่องกง ต่อมาการข่าวพบว่าเขาได้เดินทางไปรัสเซียแล้วเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2556 ข่าวนี้สร้างความไม่พอใจให้รัฐบาลสหรัฐมากที่ฮ่องกงเพิกเฉยต่อคำขอของสหรัฐ และปล่อยสโนว์เดนเดินทางไปยังรัสเซีย ในวันเดียวกันที่สโนว์เดนไปถึงรัสเซีย พบว่าก่อนเที่ยวบินของสโนว์เดนจะออกจากฮ่องกง สหรัฐได้ยกเลิกหนังสือเดินทางของเขา[9]

รถของสถานทูตเอกวาดอร์ประจำมอสโก ถูกจัดเตรียมไว้รอรับสโนว์เดนหน้าสนามบินในมอสโก 23 มิถุนายน 2556

ในวันที่ 23 มิถุนายน 2556 สโนว์เดนเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติเชเรเมเตียโวในกรุงมอสโก เพื่อที่จะทำการลี้ภัยต่อไปยังเอกวาดอร์ผ่านทางประเทศคิวบา อย่างไรก็ตาม เขากลับไม่ได้ขึ้นเครื่องบินที่จะไปยังคิวบา เนื่องจากหนังสือเดินทางเขาถูกระงับแล้ว เขากล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐต้องการให้เขาติดอยู่ในรัสเซีย ในระหว่างนี้ สโนว์เดนต้องใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่รอเปลี่ยนเครื่อง ของสนามบินเชเรเมเตียโวในมอสโก ด้วยหนังสือเดินทางถูกระงับ และการเดินทางไปยังประเทศอื่นก็ยากลำบาก เนื่องจากสหรัฐกดดันหลายประเทศห้ามสโนว์เดนบินผ่านน่านฟ้า ขณะที่หลายประเทศที่ไม่ลงรอยกับสหรัฐกำลังพิจารณาในการให้สิทธิลี้ภัยทางการเมืองแก่สโนว์เดน และในวันที่ 1 กรกฎาคม 2556[10] เขามีถ้อยความว่า

แม้ว่าผมจะยังไม่มีความผิดใดๆ แต่รัฐบาลสหรัฐก็ได้เพิกถอนหนังสือเดินทางของผมเอาฝ่ายเดียว และปล่อยผมให้เป็นคนไร้รัฐ ถึงแม้ไม่มีคำสั่งศาลแต่ฝ่ายบริหารก็พยายามหยุดยั้งผมจากการใช้สิทธิขั้นพื้นฐานที่ถูกต้อง สิทธิที่เป็นของทุกคน สิทธิที่จะแสวงหาที่ลี้ภัย[11]

รัฐบาลรัสเซียได้ให้สิทธิการลี้ภัยทางการเมืองแก่สโนว์เดน โดยในระหว่างการลี้ภัยนี้ สโนว์เดนได้เปิดเผยข้อมูลออกมาเป็นระยะ ๆ ซึ่งแต่ละข้อมูลกระทบต่อความสัมพันธ์ของสหรัฐกับชาติอื่น ๆ รวมไปถึงภาพลักษณ์ของรัฐบาลสหรัฐ ในปี 2014 เขาได้ให้สัมภาษณ์ต่อนิตยสาร The Nation ความว่า

คนส่วนมากไม่เชื่อว่าผมไม่เคยต้องการไปจบที่รัสเซีย...พวกเขา(รัฐบาลสหรัฐ) รอจนกระทั่งผมบินออกจากฮ่องกงแล้วจึงระงับหนังสือเดินทางผม เพื่อต้องการให้ผมไปติดอยู่ในรัสเซีย...ถ้าพวกเขาต้องการตัวผมจริง เขาควรปล่อยให้ผมไปถึงละตินอเมริกา เพราะว่าซีไอเอสามารถจัดการผมที่นั่นโดยปราศจากความรับผิดได้ แต่เขากลับไม่ต้องการแบบนั้น เขาต้องการให้ผมติดอยู่ในรัสเซีย[12]

ในวันที่ 26 กันยายน ปี 2022 วลาดีมีร์ ปูติน ได้ลงนามมอบสัญชาติรัสเซียแก่ เอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน อย่างเป็นทางการ

อ้างอิง

แก้
  1. "Putin grants citizenship to Edward Snowden, who exposed U.S. surveillance". Washington Post (ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน). ISSN 0190-8286. สืบค้นเมื่อ 2022-09-27.
  2. "Putin concede cidadania russa a Edward Snowden". Poder360 (ภาษาโปรตุเกสแบบบราซิล). September 26, 2022. สืบค้นเมื่อ 2022-09-27.
  3. Snowden, Edward [@Snowden] (May 18, 2022). "With two kids under two, it feels like [...] for them" (ทวีต). สืบค้นเมื่อ June 6, 2022 – โดยทาง ทวิตเตอร์.
  4. "Defiant Russia Grants Snowden Year's Asylum". New York Times. August 1, 2013. สืบค้นเมื่อ 2013-08-13.
  5. Gellman, Barton; Markon, Jerry (June 9, 2013). "Edward Snowden says motive behind leaks was to expose 'surveillance state'". The Washington Post. สืบค้นเมื่อ June 10, 2013.
  6. Gellman, Barton; Blake, Aaron; Miller, Greg (June 9, 2013). "Edward Snowden comes forward as source of NSA leaks". The Washington Post. สืบค้นเมื่อ June 10, 2013.
  7. Shane, Scott; Somaiya, Ravi (June 16, 2013). "New Leak Indicates U.S. and Britain Eavesdropped at '09 World Conferences". The New York Times.
  8. Ellsberg, Daniel (June 10, 2013). "Edward Snowden: saving us from the United Stasi of America". The Guardian. สืบค้นเมื่อ June 10, 2013.
  9. A wanted man without a passport, Snowden could join ranks of unwitting airport denizens
  10. http://wikileaks.org/Statement-from-Edward-Snowden-in.html
  11. http://www.huffingtonpost.com/norman-solomon/why-snowdens-passport-mat_b_4150236.html
  12. Vanden Heuvel, Katrina; Cohen, Stephen F. (October 28, 2014). "Edward Snowden: A 'Nation' Interview". The Nation. สืบค้นเมื่อ April 11, 2015.

แหล่งข้อมูลอื่น

แก้