รีมัส ลูปิน
ศาสตราจารย์ ดร.รีมัส ลูปิน
รีมัส ลูปิน | |
---|---|
ตัวละครใน แฮรี่ พอตเตอร์ | |
ปรากฏครั้งแรก | แฮร์รี่ พอตเตอร์กับนักโทษแห่งอัซคาบัน (2004) |
ปรากฏครั้งสุดท้าย | แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 2 (2010) |
สร้างโดย | เจ.เค.โรว์ลิง |
แสดงโดย | เดวิด ทิวลิส James Utechin (วัยรุ่น) |
ข้อมูลตัวละครในเรื่อง | |
ชื่อเต็ม | รีมัส จอห์น ลูปิน |
นามแฝง | จันทร์เจ้า |
เผ่าพันธุ์ | มนุษย์หมาป่า |
เพศ | ชาย |
คู่สมรส | นิมฟาดอร่า ท็องส์ (ตาย) |
บุตร | เท็ดดี้ ลูปิน |
สัญชาติ | อังกฤษ |
บ้านในฮอกวอตส์ | กริฟฟินดอร์ |
เกิด | 10 มีนาคม 1960 |
เสียชีวิต | 2 พฤษภาคม 1998 (38 ปี) |
สงครามฮอกวอตส์ | |
ภักดีต่อฝ่าย | ภาคีนกฟีนิกซ์ |
ประวัติ
แก้ไลอัลและโฮปมีลูกชายคนแรกและคนเดียวคือ รีมัส ลูปิน ซึ่งถือกำเนิดหลังจากทั้งสองแต่งงานกันได้หนึ่งปี รีมัสเป็นเด็กชายตัวเล็กๆที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและร่าเริง เขามีลักษณะของเวทมนตร์ปรากฏออกมาตั้งแต่แรกเกิด และทั้งไลอัลและโฮปก็หวังว่ารีมัสจะเจริญรอยตามพ่อของเขาซึ่งรวมไปถึงการได้เข้าเรียนที่ฮอกวอตส์
เมื่อรีมัสอายุได้ 4 ขวบ ความเคลื่อนไหวของกลุ่มศาสตร์มืดเริ่มเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีคนเพียงส่วนน้อยที่รู้ว่าอะไรที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีและความเคลื่อนไหวนี้ การก้าวขึ้นสู่อำนาจของลอร์ดโวลเดอมอร์ครั้งที่หนึ่งเริ่มก้าวหน้ามากขึ้นและกลุ่มผู้เสพความตายก็เริ่มหาพรรคพวกจากกลุ่มสิ่งมีชีวิตฝ่ายมืดต่างๆเพื่อยึดอำนาจของกระทรวงเวทมนตร์ ทางกระทรวงจึงเชิญผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตฝ่ายมืด (แม้แต่สิ่งมีชีวิตที่แทบจะไม่เป็นอันตรายอย่างบ็อกการ์ตกับโพสเตอร์ไกต์) มาพูดคุยกับสิ่งมีชีวิตกลุ่มนี้เพื่อให้เกิดความเข้าใจและไม่เข้าร่วมกับกลุ่มผู้เสพความตาย ไลอัล ลูปิน คือหนึ่งในคนที่ถูกเชิญให้เข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้ภายใต้การทำงานของกองออกระเบียบและควบคุมสัตว์วิเศษ นี่เป็นงานที่เขาทำอย่างมีความสุขและเป็นสถานที่ซึ่งเขาได้พบกับมนุษย์หมาป่า เฟนเรีย เกรย์แบ็ก เป็นครั้งแรกซึ่งถูกนำตัวมาสอบสวนเกี่ยวกับคดีการตายของเด็กมักเกิ้ลสองคน
สำนักงานลงทะเบียนมนุษย์หมาป่าเป็นหน่วยงานที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าใด มนุษย์หมาป่ามักจะถูกรังเกียจจากชุมชนผู้วิเศษจึงทำให้พวกเขาไม่ติดต่อหรือมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นที่ไม่ใช่พวกเดียวกันและมักจะอยู่รวมกันเป็น "ฝูง" และทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้ถูกจับตัวมาขึ้นทะเบียน เกรย์แบ็กผู้ซึ่งยังไม่เคยถูกกระทรวงตรวจพบหรือจับได้ว่าเป็นมนุษย์หมาป่าได้ให้การว่าเขาเป็นแค่มักเกิ้ลเร่ร่อนคนหนึ่งซึ่งกำลังตกใจอย่างมากที่มาอยู่ในห้องที่เต็มไปด้วยพ่อมดแม่มดและรู้สึกหวาดกลัวอย่างมากที่ถูกถามถึงการตายของเด็กที่น่าสงสาร
ด้วยสภาพการแต่งกายที่สกปรกและไม่มีกายสิทธิ์ติดตัวนั้นมากพอที่จะทำให้กรรมการสอบสวนสองคนที่ทำงานมาอย่างหนักแทบจะไม่ได้พักผ่อนและไม่รู้อะไรมากมายเกี่ยวกับมนุษย์หมาป่าเชื่อว่าสิ่งที่เกรย์แบ๊กพูดเป็นความจริง แต่ไม่ใช่กับไลอัล ลูปิน เขารู้จักอย่างดีถึงลักษณะและพฤติกรรมของมนุษย์หมาป่าที่ปรากฏอยู่บนตัวของเกรย์แบ๊ก เขาจึงเสนอแก่คณะกรรมการสอบสวนว่าให้กักตัวเกรย์แบ๊กไว้จนกว่าจะถึงคืนพระจันทร์เต็มดวงครั้งต่อไป ซึ่งก็อีกแค่ 24 ชั่วโมงข้างหน้านี้เอง
เกรย์แบ๊กนั่งอย่างนิ่งเงียบขณะที่ไลอัลถูกเพื่อนร่วมงานคณะกรรมการหัวเราะเยาะ ไลอัลซึ่งปกติเป็นคนสุภาพถึงกับโกรธมากและโพล่งออกมาว่า มนุษย์หมาป่าเป็นปิศาจที่ไร้ความเป็นมนุษย์และสมควรตาย ไลอัลถูกคณะกรรมการไล่ออกจากห้องสอบสวนและประธานกรรมการก็ขอโทษมักเกิ้ลเร่ร่อนที่นั่งเงียบอยู่และก็ปล่อยตัวเขาไป
พ่อมดที่คุ้มกันสองคนซึ่งพาตัวเกรย์แบ๊กออกมาจากห้องสอบสวนได้รับคำสั่งให้ใช้คาถาลบความทรงจำกับเขาซึ่งลืมทำก่อนที่เขาจะถูกพาตัวออกมาจากห้องสอบสวน แต่ทั้งสองคนก็ไม่ได้ลงมือเพราะถูกโจมตีจากเกรย์แบ็กและมนุษย์หมาป่าอีกสองคนที่ดักรออยู่ตรงทางออก จากนั้นมนุษย์หมาป่าทั้งสามตัวก็หนีไป เกรย์แบ็กไม่รอช้าที่จะบอกให้เพื่อนมนุษย์หมาป่ารู้ว่าไลอัล ลูปินพูดถึงพวกเขาว่าอย่างไร การแก้แค้นพ่อมดที่กล่าวว่ามนุษย์หมาป่านั้นสมควรตายจึงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและน่ากลัว
รีมัส ลูปินซึ่งกำลังจะมีอายุครบ 5 ขวบในอีกไม่กี่วัน กำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงเมื่อ เฟนเรีย เกรย์แบ็ก งัดหน้าต่างประตูห้องนอนเข้ามาและลงมือทำร้ายเขา ไลอัลเข้ามาในห้องนอนทันเวลาที่จะรักษาชีวิตของลูกชายและใช้คำสาปที่รุนแรงไล่เกรย์แบ๊กออกไปจากบ้าน แต่ว่านับจากนี้เป็นต้นไป รีมัสก็จะโตขึ้นมาเป็นมนุษย์หมาป่า
ช่วงที่เขาแปลงร่างการควบคุมเขาไว้ในพิ้นที่จำกัดไม่ใช่เรื่องยาก ด้วยการให้อยู่ในห้องที่ปิดล็อกและปกคลุมไว้ด้วยคาถาไร้เสียงก็เพียงพอ แต่เมื่อรีมัสโตขึ้น เมื่ออายุได้ 10 ปี ด้วยพลังของมนุษย์หมาป่าเขาสามารถทุบทำลายประตูและหน้าต่างได้ไม่ยาก ดังนั้นจึงต้องใช้คาถาที่รุนแรงมากเพื่อยับยั้งเขา โฮปเริ่มผ่ายผอมลงด้วยโรควิตกกังวลและความหวาดกลัว สองสามีภรรยาลูปินรักลูกชายของพวกเขามาก ตอนนี้สภาพสังคมรอบๆตัวของพวกเขากำลังถูกลุมร้อมด้วยอำนาจของศาสตร์มืดที่กำลังคุกคามไปทั่วโลกผู้วิเศษ ดังนั้น ชุมชนผู้วิเศษจะไม่มีวันเมตตาหรือเห็นใจมนุษย์หมาป่านั่นทำให้ความหวังที่จะให้รีมัสเข้าเรียนที่ฮอกวอตส์เป็นอันต้องดับลง ทั้งสองตัดสินใจที่จะสอนหนังสือให้กับรีมัสที่บ้านเอง
อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ได้มอบจุดเปลี่ยนที่สำคัญอีกครั้งหนึ่งให้กับรีมัส ลูปิน เขาแกะรอยตามหารีมัสจนมาพบเขาที่กระท่อมโทรมจนเกือบร้างในยอร์กเชียร์ รีมัสดีใจอย่างมากที่ได้พบอาจารย์ใหญ่อีกครั้งและก็แปลกใจเมื่ออัลบัสเสนอตำแหน่งอาจารย์สอนวิชาป้องกันตัวจากศาสตร์มืดให้กับเขา เขาถูกอัลบัสชักจูงให้รับข้อเสนอนี้ด้วยเหตุผลที่ว่าฮอกวอตส์มีเครื่องปรุงยาสำหรับน้ำยาระงับหมาป่าให้กับรีมัสได้ตลอดเวลาและไม่ต้องออกเงินแต่อย่างใด โดยคนที่ปรุงยานี้ให้กับรีมัสคือ เซเวอรัส สเนป
ที่ฮอกวอตส์รีมัสแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความสามารถในการเป็นครู นอกจากพรสวรรค์จากความเข้าใจในวิชาความรู้ที่เขาสอนอย่างถ่องแท้ อีกอย่างหนึ่งคือความเข้าอกเข้าใจซึ่งเป็นสิ่งที่รีมัสมีมาเสมอ นักเรียนที่เขาสอนทุกคนแม้แต่เด็กที่มักจะไม่เก่งและถูกให้รั้งท้ายเสมออย่าง เนวิลล์ ลองบัตท่อม ต่างได้รับอานิสงค์จากการเป็นครูที่ฉลาดและมีเมตตาของรีมัส
รีมัส ในภาค แฮร์รี่ พอตเตอร์กับภาคีนกฟีนิกซ์
แก้นนักโทษแห่งอัซคาบันลูปินอธิบายว่ามี "ผมสีน้ำตาลอ่อน" ที่เป็นสีเทา และเขาสวมเสื้อผ้าที่โทรมและเป็นปะ ในภาคีนกฟีนิกซ์เขามีใบหน้าซีดและมีริ้วรอยก่อนวัย เนื่องจากมีโอกาสในการจ้างงานน้อยมากสำหรับมนุษย์หมาป่า เนื่องจากโลกเวทมนตร์ส่วนใหญ่มีอคติต่อพวกเขาเพราะกลัวการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง ลูปินจึงอาศัยความเมตตาจากผู้อื่นเป็นหลักในการสนับสนุน เมื่อกระทรวงเวทมนตร์ ผ่านกฎหมายต่อต้านมนุษย์หมาป่าเพิ่มเติม ภายใต้ การกำกับดูแล ของโดโลเรส อัมบริดจ์ในภาคีนกฟีนิกซ์,ลูปินเกือบจะว่างงาน ลูปินเข้าร่วมภาคีนกฟีนิกซ์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ในหนังสือเล่มที่ 5 และเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยยามล่วงหน้าที่คอยคุ้มกันแฮร์รี่จาก บ้าน ของครอบครัวเดอร์สลีย์ในบทเปิดของหนังสือซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของภาคีนกฟีนิกซ์ร่วมกับซิเรียส แบล็ก แต่ไม่ได้อยู่ที่นั่นบ่อยนัก เนื่องจากเขามักจะถูกส่งไปทำภารกิจลับสำหรับภาคี ต่อมาเขาเข้าร่วมการต่อสู้ที่ กระทรวงเวทมนตร์ ซึ่งเขาดวลกับลูเซียส มัลฟอย เขาออกมาโดยไม่ได้รับบาดเจ็บขณะที่ลูเซียสถูกมัดด้วยเชือกที่มองไม่เห็นโดยดัมเบิลดอร์
รีมัส ในภาค แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเจ้าชายเลือดผสม
แก้ในภาคนี้เขาทำงานสายลับเป็นสายลับในหมู่มนุษย์หมาป่า ซึ่งอยู่ภายใต้การนำของหมาป่าเฟนเรียร์ เกรย์แบ็ค ซึ่งกัดลูปินตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และเข้าร่วมกองกำลังกับโวลเดอมอร์ต รีมัสยอมรับกับแฮร์รี่ว่าเนื่องด้วยอคติในโลกเวทมนตร์ เขาจึงพบว่าการเข้าข้างของพวกมนุษย์หมาป่ากับโวลเดอมอร์ตนั้นยากจะตอบโต้ เนื่องจากลอร์ดแห่งศาสตร์มืดให้อิสระแก่พวกเขามากกว่าที่พวกเขาได้รับอนุญาตในปัจจุบัน
ในตอนท้ายของหนังสือเล่มนี้เปิดเผยว่านิมฟอดอร่า ท็องส์ตกหลุมรัก ลูปิน เขาต่อต้านการเข้าไปพัวพันกับเธอเพราะความเสี่ยงจากการเป็นมนุษย์หมาป่า และเขาบอกว่าเขา "แก่เกินไป ยากจนเกินไป และอันตรายเกินไป" สำหรับเธอ อย่างไรก็ตาม ทั้งสองเห็นการจับมือกันในฉากสุดท้ายของหนังสือเล่มหนึ่ง
รีมัส ในภาค แฮร์รี่ พอตเตอร์กับเครื่องรางยมทูต ภาค 2
แก้ด้วยคำเชิญของ เนวิลล์ ลองบัตท่อม เขาจึงเข้าร่วมสงครามที่ฮอกวอตส์ โดยฝากลูกชายตัวเล็กๆไว้ให้อยู่ในความดูแลของคุณยาย ทั้งสองตระหนักดีว่าหากโวลเดอมอร์ชนะในสงครามนี้พวกเขาทั้งครอบครัวต้องถูกกำจัดไปด้วยแน่นอน ด้วยเพราะทั้งสองเป็นสมาชิกของภาคีนกฟีนิกซ์และนิมฟาดอร่ายังเป็นหลานสาวผู้น่ารังเกียจในสายตาเบลลาทริกซ์ เลสแตรงจ์ ผู้เสพความตายซึ่งเป็นสมุนเอกคนสำคัญของโวลเดอมอร์ อีกทั้งลูกชายของพวกเขายังเป็นเป้าโจมตีสำหรับพวกบ้าคลั่งความเชื่อเลือดบริสุทธิ์แถมยังเป็นลูกชายซึ่งเกิดจากพ่อที่เป็นมนุษย์หมาป่าอีกด้วย
ถึงแม้ด้วยประสบการณ์การต่อสู้หลายครั้งและผ่านการดวลกับผู้เสพความตายมาก็หลายคนแม้ในสถานการณ์ที่คับขันหรือต้องเจอคู่ต่อสู้ที่ฝีมือใกล้เคียงกัน แต่ รีมัส ลูปิน ก็พลาดท่าและพบจุดจบด้วยน้ำมือของ แอนโทนี โดโลฮอฟ หนึ่งในผู้เสพความตายผู้ซื่อสัตย์ของลอร์ดโวลเดอมอร์และสนุกสนานกับการทรมาณเหยื่อ เนื่องด้วยรีมัสไม่ได้อยู่ในสภาพต่อสู้มานานกว่า 9 เดือน เมื่อต้องเร่งรีบเข้ามาร่วมต่อสู้ในสงครามนี้ ทำให้ฝีมือและความไวในการร่ายคาถาของเขาไม่เหมือนเดิม เมื่อเทียบกับโดโลฮอฟที่ผ่านการต่อสู้และการสังหารหรือทำให้เหยื่อบาดเจ็บมามากมาย รีมัส ลูปินโผล่มาครั้งสุดท้ายในตอนที่แฮรี่ พอตเตอร์เรียกจากหินชุบวิญญาณ