ตรวจสอบว่าสมาชิกในครอบครัวแต่ละคนมี Apple ID เป็นของตัวเอง
หากคุณต้องการแชร์สินค้าที่ซื้อหรือการสมัครรับข้อมูลกับครอบครัว ให้ใช้การแชร์กันในครอบครัว แต่ละคนควรใช้ Apple ID ของตนเอง
หลีกเลี่ยงการใช้ Apple ID ร่วมกัน
Apple ขอแนะนำไม่ให้คุณใช้ Apple ID ร่วมกัน ให้ตั้งค่าคุณสมบัติการแชร์กันในครอบครัวเพื่อให้แต่ละคนใช้ Apple ID ของตนเองแทน เมื่อทำเช่นนี้แล้ว ครอบครัวของคุณสามารถแชร์สินค้าที่ซื้อ การสมัครรับ และอื่นๆ โดยไม่ต้องแชร์ข้อมูลส่วนตัวอย่างอีเมล ข้อความ หรือรหัสผ่าน
หากคุณแชร์ Apple ID กับสมาชิกในครอบครัว บริการบางอย่างจะถือว่าคุณเป็นบุคคลเดียวกัน คุณอาจพบปัญหาเหล่านี้:
การสมัครรับแบบครอบครัวของ Apple Music: แทนที่คุณจะได้รับการเป็นสมาชิกของตัวเองและมีคลังเพลงเป็นของตัวเอง คุณจะได้แชร์คลังเพลงและเพลงที่แนะนำกับสมาชิกครอบครัวคนอื่น
การซื้อบน App Store, Apple Books และ iTunes: หากหยุดการแชร์กันในครอบครัว เจ้าของ Apple ID ที่แชร์กันจะได้การซื้อไว้ทั้งหมด และคุณอาจไม่สามารถเข้าถึงอะไรก็ตามที่อยู่ในบัญชีนั้นได้อีกเลย รวมถึงสิ่งที่คุณซื้อเองด้วย
Apple Podcasts, Apple Books: ตอนของพ็อดคาสท์และที่คั่นหน้าอาจเชื่อมข้อมูลตามการตั้งค่าของสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ หรือถูกลบโดยไม่ตั้งใจ
ข้อความและวอยซ์เมล: คุณอาจได้รับข้อความและวอยซ์เมลที่ต้องการส่งหาสมาชิกคนอื่นในครอบครัว
ประวัติการโทร: ประวัติการโทรล่าสุดของคุณจะรวมทุกสายที่สมาชิกในครอบครัวโทรออกและรับสาย
ฟิตเนส: คุณอาจเห็นรายละเอียดด้านสุขภาพ การออกกำลังกาย และคำแนะนำเกี่ยวกับ Fitness+ สำหรับสมาชิกในครอบครัวของคุณ
ช่วยสมาชิกในครอบครัวของคุณสร้าง Apple ID จากนั้นตั้งค่าการแชร์กันในครอบครัว
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่เกิดจากการแชร์ Apple ID ให้ตั้งค่า Apple ID สำหรับสมาชิกในครอบครัวแต่ละคนและตั้งค่าการแชร์กันในครอบครัว
บนอุปกรณ์ของสมาชิกในครอบครัว ให้ออกจากระบบ iCloud
ขอให้สมาชิกในครอบครัวสร้าง Apple ID หากสมาชิกในครอบครัวอายุต่ำกว่า 13 ปี ให้สร้าง Apple ID สำหรับบุตรหลาน
ขอให้สมาชิกในครอบครัวของคุณเข้าสู่ระบบ iCloud ด้วย Apple ID ใหม่บนอุปกรณ์ของตัวเอง
ตั้งค่าการแชร์กันในครอบครัวและเชิญสมาชิกในครอบครัวเข้าร่วมกลุ่ม
ตั้งค่าการแชร์สินค้าที่ซื้อ หากคุณมีลูกอยู่ในครอบครัว คุณสามารถตั้งค่าขออนุญาตซื้อ
ทีนี้คุณก็สามารถแชร์สินค้าที่ซื้อ การสมัครรับ และอื่นๆ กับครอบครัวของคุณได้แล้ว