รัฐสภาไทย
รัฐสภาแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นองค์กรสำคัญในระบบประชาธิปไตย ทำหน้าที่ออกกฎหมาย ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน และให้ความเห็นชอบในเรื่องสำคัญของประเทศ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ตาม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมเมื่อ พ.ศ. 2564[1] บัญญัติให้รัฐสภาประกอบด้วยวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นการปกครองโดยใช้ระบบสองสภา โดยทั้งสองสภาจะประชุมร่วมกันหรือแยกกันแล้วแต่ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ โดยมีประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานรัฐสภา และประธานวุฒิสภาเป็นรองประธานรัฐสภา โดยตำแหน่ง
รัฐสภาแห่งราชอาณาจักรไทย | |
---|---|
ชุดที่ 26 | |
ตรารัฐสภาไทย | |
ประเภท | |
ประเภท | |
องค์ประกอบ | วุฒิสภา สภาผู้แทนราษฎร |
ผู้บริหาร | |
พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ตั้งแต่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2559 | |
รองประธานรัฐสภา (ประธานวุฒิสภา) | มงคล สุระสัจจะ ตั้งแต่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 |
โครงสร้าง | |
สมาชิก | 700
|
กลุ่มการเมืองใน วุฒิสภา | อิสระ (200) |
กลุ่มการเมืองใน สภาผู้แทนราษฎร | ฝ่ายรัฐบาล
|
การเลือกตั้ง | |
การลงคะแนนแบบจำกัดคะแนนเสียงทางอ้อมด้วยการการเสนอชื่อตนเอง | |
ระบบคู่ขนาน แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง (400) แบบบัญชีรายชื่อ (100) | |
การเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาครั้งล่าสุด | 26 มิถุนายน พ.ศ. 2567 |
การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งล่าสุด | 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 |
ที่ประชุม | |
สัปปายะสภาสถาน เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร | |
เว็บไซต์ | |
parliament.go.th |
สำหรับสถานที่ประชุมนั้นเริ่มจากพระที่นั่งอนันตสมาคม ก่อนย้ายมายังอาคารรัฐสภาไทย (ถนนอู่ทองใน) และสัปปายะสภาสถานตามลำดับ
ในบางช่วงเวลา (โดยเฉพาะหลังรัฐประหาร) อาจมีการยกเลิกรัฐสภาแล้วให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติเป็นผู้ใช้อำนาจนิติบัญญัติแทน
องค์ประกอบ
แก้สภาผู้แทนราษฎร
แก้สภาผู้แทนราษฎรไทย เป็นสภาล่างของประเทศไทย ประกอบด้วยสมาชิกโดยตรงทั้งหมด 500 คน ได้มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งในแต่ละจังหวัด จำนวน 400 คน และแบบบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง จำนวน 100 คน ซึ่งหลักเกณฑ์และวิธีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรูปแบบนี้ เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ซึ่งมีการแก้ไขเพิ่มเติมเมื่อ พ.ศ. 2564[1] ทั้งนี้ อายุของสภาผู้แทนราษฎรมีกำหนดคราวละ 4 ปี นับแต่วันเลือกตั้ง
วุฒิสภา
แก้วุฒิสภาไทย หรือเดิมมีชื่อว่า "พฤฒสภา" เป็นสภาสูงของรัฐสภาไทยคู่กับสภาผู้แทนราษฎรไทยซึ่งเป็นสภาล่าง ตามรัฐธรรมนูญปี 2560 วุฒิสภาในวาระเริ่มแรกประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 250 คน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามที่ถวายคำแนะนำ วุฒิสภามีวาระคราวละ 5 ปี ใช้ห้องประชุมใหญ่พระจันทรา ณ สัปปายะสภาสถาน เป็นที่ประชุม
การเลือกตั้ง
แก้การเลือกตั้งของประเทศไทย เป็นกระบวนการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อให้ได้มาซึ่งบุคคลเข้าไปทำหน้าที่ในการปกครองประเทศไทย อาทิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย วุฒิสภาไทย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายกเมืองพัทยา และผู้บริหารท้องถิ่นอื่น ๆ ด้วยการให้ประชาชนออกเสียงเลือกบุคคลที่เห็นสมควร
การเลือกตั้งในประเทศไทยจัดขึ้นภายใต้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งทั่วไป (Universal suffrage) ตามความในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- มีสัญชาติไทยโดยกำเนิด หรือแปลงสัญชาติเป็นไทยมาแล้วไม่ต่ำกว่า 5 ปี
- มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
- มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วันนับถึงวันเลือกตั้ง
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องไม่มีลักษณะต้องห้าม คือ ต้องไม่เป็นพระสงฆ์ สามเณร นักพรตหรือนักบวช ต้องไม่อยู่ในระหว่างเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ต้องไม่ถูกคุมขังด้วยหมายของศาลหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย และต้องไม่เป็นคนสติฟั่นเฟือน[2]
ประธานรัฐสภา
แก้ประธานสภาผู้แทนราษฎรไทยถือเป็นประธานรัฐสภาไทยโดยตำแหน่ง เมื่อผู้ใดได้รับเลือกเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็จะถือเป็นประธานรัฐสภาโดยอัตโนมัติ ส่วนประธานวุฒิสภาไทยถือเป็นรองประธานรัฐสภาโดยตำแหน่ง[3][4] ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภาคนปัจจุบัน คือ วันมูหะมัดนอร์ มะทา จาก พรรคประชาชาติ ส่วนประธานวุฒิสภาและรองประธานรัฐสภา คือ มงคล สุระสัจจะ ที่ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ.2567[5]
ดูเพิ่ม
แก้เชิงอรรถ
แก้อ้างอิง
แก้- ↑ 1.0 1.1 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๑) พุทธศักราช ๒๕๖๔
- ↑ การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เก็บถาวร 2013-05-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน. คณะกรรมการการเลือกตั้ง. สืบค้น 6-7-2554.
- ↑ Constitution of the Kingdom of Thailand 2007. Chapter 6: National Assembly of Thailand, Part 1: General Provisions
- ↑ "เลขาสภายืนยัน บัตรเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรมีตราเฉพาะปลอมไม่ได้".[ลิงก์เสีย]
- ↑ "ใบสั่งสีน้ำเงิน "มงคล สุรัจสัจจะ" ประธานวุฒิสภา คนใหม่". Thai PBS.