โบสถ์น้อยซิสทีน

(เปลี่ยนทางจาก ชาเปลซิสติน)

โบสถ์น้อยซิสทีน[2] (อังกฤษ: Sistine Chapel; อิตาลี: Cappella Sistina) เป็นโบสถ์น้อยภายในพระราชวังพระสันตะปาปา ซึ่งเป็นที่ประทับอย่างเป็นทางการของพระสันตะปาปาในนครรัฐวาติกัน โบสถ์น้อยซิสทีนมึชื่อเสียงในทางสถาปัตยกรรมเพราะเป็นสถานที่ที่ทำให้ระลึกถึงพระวิหารของพระเจ้าโซโลมอนในพันธสัญญาเดิม, การตกแต่ง, จิตรกรรมฝาผนังโดยจิตรกรผู้มีชื่อเสียงในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยารวมทั้งมีเกลันเจโลผู้วาดเพดานของโบสถ์จนที่เป็นที่เลื่องลือ และสุดท้ายคือความสำคัญในการเป็นสถานที่ทำการประชุมเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่

  • โบสถ์น้อยซิสทีน
โบสถ์น้อยซิสทีน
ศาสนา
ศาสนาโรมันคาทอลิก
เขตมุขมณฑลโรม
ที่ตั้ง
ที่ตั้งนครรัฐวาติกัน
พิกัดภูมิศาสตร์41°54′11″N 012°27′16″E / 41.90306°N 12.45444°E / 41.90306; 12.45444
สถาปัตยกรรม
สถาปนิกบาชิโอ พอนเทลลิ, โจวันนี เด ดอลชี[1]
ประเภทโบสถ์
ลงเสาเข็มค.ศ. 1473[1]
เสร็จสมบูรณ์ค.ศ. 1481[1]
ลักษณะจำเพาะ
ความยาว40.9 เมตร (134 ฟุต)
ความกว้างของโบสถ์13.4 เมตร (44 ฟุต)
ความสูงสูงสุด20.7 เมตร (68 ฟุต)
เว็บไซต์
mv.vatican.va
พระยาห์เวห์ทรงสร้างอาดัมGod creates Adam โดย มีเกลันเจโลหลังจากการปฏิสังขรณ์
สมเด็จพระสันตะปาปาซิกส์ตุสที่ 4

จุดประสงค์และประวัติศาสตร์

แก้

โบสถ์น้อยซิสทีนเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นสถานที่สำหรับการประชุมเลือกตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่ ในสมัยสมเด็จพระสันตะปาปาซิกส์ตุสที่ 4ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 15 ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีด้วยกันทั้งหมด 200 คนรวมทั้งนักบวช, เจ้าหน้าที่ของวาติกัน, และผู้นำฆราวาส

ปฏิทินพระสันตะปาปากำหนดไว้ว่าจะต้องมีการทำพิธีทางศาสนา 50 หนต่อปี ในจำนวน 50 หน 35 หนจะเป็นการทำพิธีมิสซา และใน 35 หนนั้น 8 จะทำภายในมหาวิหารนักบุญเปโตรโดยมีผู้ร่วมพิธีเป็นอันมาก ซึ่งรวมทั้งคริสต์มาส และอีสเตอร์มิสซา ในสองโอกาสนี้ผู้เป็นประธานในพิธีจะเป็นองค์พระสันตะปาปาเอง มิสซาอีก 27 ครั้งจะจัดในบริเวณที่เล็กกว่าคือในชาเปลซิสตินซึ่งสร้างบนชาเปลเก่าที่เรียกว่า “กัปเปลลามัจโจเร” ซึ่งใช้ทำพิธีเช่นเดียวกัน

“กัปเปลลามัจโจเร” หรือ โบสถ์น้อยหลัก ได้ชื่อเช่นนั้นเพราะมีโบสถ์น้อยอีกแห่งหนึ่งที่ใช้โดยพระสันตะปาปาสำหรับทำพิธีประจำวัน ในสมัยพระสันตะปาปาซิกส์ตุสที่ 4 เป็นโบสถ์ที่สมเด็จพระสันตะปาปานิโคลัสที่ 5ซึ่งตกแต่งโดยฟราอันเจลีโก “กัปเปลลามัจโจเร” ตามหลักฐานมีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1368 จากการติดต่อระหว่างพระสันตะปาปาซิกส์ตุสที่ 4 กับ อันเดรียส์แห่งเทรบิซอนด์เมื่อ “กัปเปลลามัจโจเร” ก็อยู่ในสภาพที่เสื่อมโทรมมากก่อนที่จะถูกรื้อทิ้งเพื่อสร้างชาเปลปัจจุบัน [3]

โบสถ์น้อยหลังปัจจุบันออกแบบโดยบาชิโอ พอนเทลลิสำหรับพระสันตะปาปาซิกส์ตุสที่ 4 ซึ่งโบสถ์ได้ตั้งชื่อตาม การก่อสร้างคุมโดย โจวันนี เด ดอลชี ระหว่างปี ค.ศ. 1473 ถึงปี ค.ศ. 1484 ขนาดของชาเปลปัจจุบันเป็นขนาดพอๆ กับชาเปลเดิม หลังจากสร้างเสร็จภายในก็ตกแต่งด้วยจิตรกรรมฝาผนังโดยจิตรกรคนสำคัญๆ ที่สุดของคริสต์ศตวรรษที่ 15 รวมทั้งซันโดร บอตตีเชลลี, กีร์ลันดาโย (Ghirlandaio) และ เปรูจีโน (Perugino) [3]

พิธีมิสซาครั้งแรกภายในชาเปลซิสตินฉลองกันเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1483 ซึ่งเป็นวันสมโภชแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ และเป็นวันสถาปนาของโบสถ์ซึ่งอุทิศให้พระนางมารีย์พรหมจารี โบสถ์นี้ยังเป็นสถานที่ทำพิธีของพระสันตะปาปาอยู่จนทุกวันนี้ ภายในโบสถ์มีที่สำหรับร้องเพลงสวดซึ่งเป็นที่ ๆ เพลงสวดหลายเพลงเขียนขึ้นที่นี่รวมทั้ง “Miserere (Allegri)” ซึ่งเป็นเพลงสำหรับร้องสดุดีในโอกาสวันพฤหัสบดีศักดิ์สิทธิ์ (Maundy Thursday)

อ้างอิง

แก้
  1. 1.0 1.1 1.2 Ekelund, Hébert & Tollison 2006, p. 313
  2. เฟอร์กูสัน จอร์จ, เครื่องหมายและสัญลักษณ์ในคริสตศิลป์, กุลวดี มกราภิรมย์ แปลและอธิบายเพิ่มเติม, พิมพ์ครั้งที่ 4 (ปรับปรุงเพิ่มเติม), กรุงเทพฯ: อมรินทร์, 2549
  3. 3.0 3.1 John Shearman, "The Chapel of Sixtus IV", in The Sistine Chapel, editor Giacometti, Harmony Books, 1986, ISBN 0-517-56274-X

ดูเพิ่ม

แก้

สมุดภาพ

แก้